*นายกฯขออย่าโยงปราบผู้มีอิทธิพลกับการเมือง ย้ำครอบครัวไม่ได้เป็นมุสลิม*

การดำเนินการปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขออย่าให้ไปโยงเกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่กลุ่มผู้มีอิทธิพลนี้ก็อาจมีคนของการเมืองอยู่บ้าง ซึ่งขณะนี้ส่วนตัวได้ให้ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปดำเนินการแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็จะดำเนินการกับทุกกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งหมด โดยขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งตรวจแล้วใครไม่มีส่วนเกี่ยยข้องก็ไม่เป็นไร  เพราะการเำเนินการนี้ต้องการทำให้บ้านเมืองสะอาดปลอดภัย

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับอาวุธปืนได้ที่จังหวัดนครปฐม 30-40กระบอก และได้รับรายงานเรื่องกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ตลาดโบ้เบ๊ด้วย พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลก็ไม่นิ่งนอนใจและก็จะดำเนินตามกฎหมาย

ส่วนวันพรุ่งนี้จะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ส่วนตัวไม่ห่วงอะไร เพราะอย่างไรก็ห่วงมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 22พ.ค.2557แล้ว เพราะต้องเอาประเทศมาแบกรับ ซึ่งยังไงส่วนตัวก็ต้องร่วมมือกับประชาชน เดินหน้าประเทศในทางสร้างสรรค์ ไม่ใช่ชัดแย้ง ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี มองว่า เรื่องสุริยุปราคานี้ เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล สามารถเชื่อได้ แต่ขอให้อย่าประมาท

ส่วนที่มีการเสนอข่าววิจารณ์กันว่านายกรัฐมนตรี รวมถึงครอบครัวเป็นมุสลิม นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยัน ครอบครัวตนเองไม่ได้เป็นมุสลิม เพราะตอนนี้ตนเองก็ยังห้อยพระอยู่ ส่วนภรรยาที่สวมผ้าคลุมศีรษะ เนื่องจากไปงานของประเทศมาเลเซีย 

ด้านการเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราช  ที่ สำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมาระบุว่าการแต่ตั้งสมเด็จพระสังฆราชของทางมหาเถรสมาคม(มส.)นั้น ดำเนินการผิดขั้นตอน พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นหนังสือที่ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน จะส่งมา เพราะตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจความถูกต้อง แต่ยืนยันว่า ไม่ว่าพระ หรือประชาชน ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ซึ่งถ้าเรื่องส่งมาเมื่อไหร่ส่วนตัวก็จะส่งให้ทางฝ่ายกฎหมายไปดูแล  พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า การแต่งตั้งในครั้งควรให้เรื่องของคดีเสร็จสิ้นก่อนเพราะถ้ามีคดียังไงก็ตั้งไม่ได้