เมืองไทยฯ(1):ประชุมครม./สตช.ตรวจสอบรายชื่อผู้มีอิทธิพล/ปภ.ประกาศเขตภัยแล้ง12จังหวัด*

วันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะมีวาระเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและเรื่องที่คณะกรรมการบริหาร สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) มีมติเห็นชอบให้ตรึงราคาขายปลีกหุงต้ม (แอลพีจี) มีนาคมไว้ที่ 20.29 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ก่อนที่จะมีการประชุม เครือข่ายสตรี 4 ภาคเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ เนื่องในวันสตรีสากล  

นายกรัฐมนตรีมอบหมายพลอากาศเอกประจิน  จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในพิธีเปิดงาน “เพลินพลังงาน งานวิจัยขายได้” ที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล

ในส่วนของการประชุม แม่น้ำ 5 สายที่กลายเป็น 4 สายเมื่อวานนี้เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญร่างแรก ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีอาจจะเรียกประชุมแม่น้ำ 5 สายในเร็วๆ นี้ต่อไป รวมถึงการเตรียมตอบคำถาม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ในวันที่ 10 มีนาคมนี้

ในวันนี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาค 1 (กกล.รส.ทภ.1) จะประชุม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อมอบนโยบายการปราบปราม โดยประเด็นที่ถูกจับตาคือการระบุชื่อบุคคลเป็นผู้กว้างขวางในเขตกรุงเทพ  (นายการุณ โหสกุล อดีตส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ทหารนอกราชการ)

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้ตรวจสอบรายชื่ออีกครั้ง และจะทราบผลในสัปดาห์หน้า โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.จะดูแลการปราบปรามผู้มีอิทธิพล

ส่วนเรื่องกระเช้าขึ้นภูกระดึง เมื่อวานนี้ ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) นายคำพันธ์ ป้องปาน ประชาชนชาวภูกระดึง จ.เลย พร้อมชาวบ้านและองค์กรเอกชนในพื้นที่ 13 องค์กร เข้ายื่นหนังสือแสดงเจตจำนงถึง นายกรัฐมนตรี สนับสนุนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้มีการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง โดยอ้างถึงการทำประชาพิจารณ์คนในพื้นที่ถึง 4 ครั้ง และทุกครั้งมีผลสนับสนุนการสร้าง โดยระบุว่าเหตุผลที่ชาวภูกระดึงมาในวันนี้ ก็เพราะคนนอกพื้นที่ลุกขึ้นมาคัดค้าน ใส่ความชาวบ้านในพื้นที่ พูดให้เกิดความหวาดกลัว

วันนี้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จะเปิดอาคารผู้โดยสารภายในประเทศอาคาร 2 ท่าอากาศยานดอนเมืองอย่างเป็นทางการ โดยมี นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ ทอท.เป็นประธานในพิธีฯ ที่จัดขึ้นที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ

 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง จะเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการปิดบัญชีรับจำนำข้าว

ส่วนปัญหาภัยแล้ง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เตือนว่าความรุนแรงอาจต่อเนื่องไปถึงเดือนพฤษภาคม โดยเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และการบริหารจัดการน้ำของประเทศตั้งแต่ 2554-2559 และในปีนี้สถานการณ์ค่อนข้างคล้ายกับในช่วงปี 2553

นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าในพื้นที่ ที่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำของชลประทานจะไม่ขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอนตลอดช่วงแล้ง 3 เดือนนี้ แต่มีพื้นที่เฝ้าระวัง 42 จังหวัด 152 อำเภอ

นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์กรมหาชน) ในฐานะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า ต้องมีการติดตามสถานการณ์โดยตลอด ภาครัฐต้องระมัดระวังและดำเนินการตามแผนที่วางไว้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดและลดความเสี่ยงที่จะเกิดภัยแล้งคุกคามหนักขึ้น รวมถึงภาคประชาชนก็ต้องดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การเกษตร การอุปโภคบริโภคก็ต้องเรียนรู้และเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อให้การใช้ประโยชน์จากน้ำสูงสุดและร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคภัยแล้งวิกฤติในปีนี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมพร้อมแหล่งน้ำเพิ่มเติม หากน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรขาดแคลน จะต้องมีการประกาศเขตภัยพิบัติ

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม พบมีวันฝนตก จากปฏิบัติการฝนหลวง 12 เที่ยวบิน คิดเป็น ร้อยละ 55.6 ในพื้นที่ 6 จังหวัดได้ สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี และ อ.ครบุรี อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ช่วยสร้างความชุ่มชื้นและลดอุณหภูมิได้ในระดับหนึ่งแล้ว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่ามีจังหวัดที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 12 จังหวัด รวม 48 อำเภอ 226 ตำบล 1,989 หมู่บ้านได้แก่ภาคเหนือ 5 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา สุโขทัย นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์ ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี เพชรบุรี และภาคตะวันออก 1 จังหวัด คือ สระแก้ว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

โดยที่นนทบุรี และ ปทุมธานี เริ่มมีรายงานถนนทรุดตัว

*-*