*ตม.ผลักดัน ซูซูกลับจีนทันที หลังไม่พบหลักฐานเกี่ยวพันปล้นปืน *

การสอบสวนผู้ต้องสงสัยคดีปล้นปืน สามยอดพลาซ่า  พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า  การสอบสวนนายซูซู นักธุรกิจสัญชาติจีน ที่เรียกมาสอบสวน หลังพบว่านายซูซูเป็นผู้จัดหาซิมการ์ดให้กับกลุ่มผู้ต้องหา พบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้ ส่วนที่นายซูซูมีซิมการ์ดจำนวนมาก เนื่องจากเอาไว้ใช้ในธุรกิจ และทุกคนสามารถซื้อไว้ได้ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหา อ้างว่าหลังจากปล้นปืนได้จะนำปืนไปขายต่อในตลาดมืดที่ประเทศจีน โดยจะนำปืนออกไปทางชายแดนทางภาคเหนือ และผ่านทางประเทศลาว ก่อนเข้าไปในจีน เพราะในประเทศจีน ปืนมีราคาแพงราคาประมาณ 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท

พลตำรวจตรีทรงพล วัธนะชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ระบุว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายซูซู มาทำธุรกิจทัวร์ อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต และเป็นผู้ที่ซื้อซิมให้กับลูกทัวร์เป็นปกติอยู่แล้ว จึงเชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหา และไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย แต่ยังอยู่ระหว่างสืบสวนในเชิงลึก

พลตำรวจโทณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า นายซูซู เข้าออกประเทศไทย 17 ครั้ง โดยครั้งแรกเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2558 ต่อมาได้ขออนุญาตทำงานในประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2558 เป็นเวลา 1 ปี และจะหมดอายุในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ แต่หลังจากพบว่าเป็นผู้จัดหาซิมการ์ดให้กับกลุ่มผู้ต้องหา  สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงเห็นว่าจะเป็นภัยต่อสังคมไทย จึงเพิกถอนใบอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรไทย ตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง ก่อนจะผลักดันกลับประเทศจีน ส่วนจะสามารถกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีกหรือไม่ จะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ ซึ่งต้องเว้นระยะห่างเป็นเวลา 5 ปี แต่จากการตรวจสอบประวัติกับสถานทูตจีน ก็ไม่พบการก่ออาชญากรรมในประเทศจีน และมีอาชีพไม่แน่นอน

แฟ้มภาพ