การแก้ปัญหาภัยแล้ง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการรายงานของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรพบว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.- 3 มี.ค. 2559 มีวันฝนตกจากปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 12 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 55.6 ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี โดยล่าสุดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี และ อ.ครบุรี อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งช่วยสร้างความชุ่มชื้นและลดอุณหภูมิได้ในระดับหนึ่ง และขณะนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 7 หน่วยทั่วประเทศ กำลังเร่งปฏิบัติการอย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ แต่ต้องยอมรับว่า สภาพอากาศช่วงนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน โอกาสเกิดฝนตกจึงค่อนข้างน้อย เพราะอากาศต้องมีความชื้นเกินร้อนละ 60 และมีทิศทางลม การก่อตัวและขนาดของกลุ่มเมฆที่เอื้ออำนวยจึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด
โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ในทุกชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง หากพบสภาพอากาศเหมาะสมจะปฏิบัติการทันที รวมทั้งจะมีการเปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มอีก 1 แห่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.59 เพื่อดูแลพื้นที่การเกษตรภาคใต้ตอนล่างที่ประสบปัญหาภัยแล้ง พล.อ.ประยุทธ์ ท่านนายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากสภาพอากาศยังเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการ แต่ขอให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งกำชับให้ กระทรวงเกษตร ร่วมมือกับหน่วยทหาร เช่น หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และภาคเอกชน เพื่อเร่งขุดเจาะบ่อบาดาลให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายโดยเร็วที่สุด
สำหรับมาตรการขุดเจาะบ่อบาดาลของรัฐบาล ขณะนี้ได้ให้หน่วยขุดเจาะทั้ง 92 หน่วยเร่งดำเนินการโดยด่วน โดยขุดเจาะเสร็จไปแล้ว 2,192 บ่อ เป็นบ่อเพื่อการอุปโภคบริโภค 1,104 บ่อ เพื่อการเกษตร 1,088 บ่อ และตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องขุดให้ได้ 4,000 บ่อภายในเดือน เม.ย.นี้