พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.) ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเรือโดยสารในคลองแสนแสบเกิดระเบิด บริเวณท่าเทียบเรือวัดเทพลีลา พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 58 คน สาหัส 2 คน ส่วนที่เหลือ 21 คน นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง มอบหมายให้ รรท.ผบชน. เข้าตรวจสอบว่ามีคนหายหรือไม่ ขณะที่ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)กำลังเก็บหลักฐาน พร้อมทั้งประสานงานบริษัทครอบครัวขนส่ง บริษัทที่ให้บริการเดินเรือให้หยุดเดินเรือทุกลำชั่วคราว ทั้งนี้ บริษัทนี้มีเรือทั้งหมด 30 ลำ
ด้านนายเชาวลิต เมทยประภาส เจ้าของบริษัทครอบครัวขนส่ง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานขอให้หยุดเดินเรือ เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเกิดระเบิดที่ห้องเครื่อง บริษัทจะไม่หยุดให้บริการ แต่จะหยุดการใช้แก๊ส LNG ทั้งหมด เปลี่ยนมาใช้น้ำมันแทน เนื่องจาก เครื่องยนต์มีสองระบบ และยังไม่ทราบว่าสาเหตุของการเกิดระเบิดนั้นมาจากอะไรและเพื่อเป็นการตัดปัญหา และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้บริการ โดยเรือภายในบริษัทที่ใช้แก๊ส LNG มีทั้งหมด 25 ลำ พร้อมกับยืนยันว่า บริษัทจะรับผิดชอบ ผู้เสียหายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลหรือ ข้าวของเครื่องใช้เสียหาย
นายชวลิต กล่าวว่า บริษัทครอบครัวขนส่ง ได้ให้บริการเดินเรือมากว่า 30 ปี และได้เปลี่ยนมาใช้แก๊สเมื่อประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว แต่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เนื่องจากน้ำมันมีราคาที่สูงขึ้น ไม่คุ้มค่าขนส่ง แต่หลังจากนี้จะต้องกลับไปใช้ระบบน้ำมันตามเดิม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ บริษัทลงทุนไป 80 กว่าล้านบาท เรือมีอายุการใช้งานมาแล้ว 8-9 ปี หากรักษาความปลอดภัยดี น่าจะดูแลได้ดีกว่านี้ เรือที่ระเบิดยังอยู่ที่เกิดเหตุไม้ของเรือเสียหายทั้งหมด ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคมนาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน กรมเจ้าท่า ได้เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข