*ผบ.ตร.เร่งปราบผู้มีอิทธิพล-บ่อนพนัน รับในพท.กทม. ยังมีพื้นที่สีแดง*

ก่อนการประชุมการปราบปรามผู้มีอิทธิพล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมกล่าวว่า เป็นการเตรียมความพร้อมด้านการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ยอมรับว่า ในอดีตมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เป็นข้าราชการ โดยเฉพาะตำรวจและทหาร ต้องการความช่วยเหลือในวงการเดียวกัน แต่ในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนหมดแล้ว และไม่น่าจะมีการช่วยเหลือกัน ส่วนตัวมั่นใจว่าหลังจากการปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิครั้งนี้ผ่านไป สังคมจะดีขึ้น ประชาชนจะถูกการข่มขู่รังแกน้อยลง ใช้ชีวิตแบบปกติสุข และในส่วนเขตกรุงเทพมหานคร ยังมีพื้นที่สีแดงที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วนในการปราบปรามเรื่องบ่อนการพนันของกลุ่มผู้มีอิทธิพล พร้อมยืนยันว่า บ่อนการพนันในคลิปที่มีการเผยแพร่ทางโซเซียลเน็ตเวิร์ค อาจจะเป็นบ่อนลักลอบเล่นการพนันเท่านั้น และยืนยันว่าไม่มีบ่อนการพนันที่เปิดอย่างเสรีแน่นอน

การประชุมในวันนี้ เป็นไปตามคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เลขที่ 324/2558 ลงวันที่ 29 ต.ค.2558 ให้ตั้งคณะกรรมการเรื่องการบูรณาการปราบปรามผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน และมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นคณะกรรมการ ซึ่งเป็นนโยบายของภาครัฐเพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติสุข ไม่มีกลุ่มผู้มีอิทธิเข้ามาข่มเหงรังแก รวมถึงจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเก่าทั้งหลายใน 16 ฐานความผิดที่คณะกรรมการได้ตั้งไว้  โดยเริ่มปฏิบัติการจริงในวันที่ 5 มีนาคม 2559 ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยสนธิกำลังร่วมกัน 3 ฝ่าย  คือปกครอง ตำรวจ ทหาร  ซึ่งฝ่ายความมั่นคงแต่ละหน่วยจะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ก่อนส่งให้คณะกรรมการแต่ละหน่วยตรวจสอบคัดกรองข้อมูลที่รวบรวมไว้อีกขั้นตอนหนึ่ง

ส่วนเรื่องการทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้า หรือ เฟซออฟ ที่สามารถย้อนเวลาใบหน้าให้อ่อนเยาว์ลงกว่าอายุจริง  พล.ต.อ. จักรทิพย์ ยอมรับว่า มีความกังวลเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณีนายบังรอน ราชายาเสพติด ซึ่งมีข่าวศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าเช่นกัน และหลังจากเป็นข่าวก็ไม่ปรากฎตัวในประเทศไทย แต่ก็ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีเครื่องมือและวิธีการพิสูจน์ตัวบุคคล เช่น ดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ เพื่อยืนยันตัวบุคคลที่กระทำความผิดได้

ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข