ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++มติมหาเถระสมาคมเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราช ผิดขั้นตอน หลังมี รายงานจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ทำความเห็นและข้อเสนอแนะถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในฐานะเป็นผู้รักษาการตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ว่า มติของมหาเถรสมาคม(มส.)ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 มกราคม เห็นชอบเสนอนามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุณโญ) เจ้าอาวาสวัดและผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์นั้น เป็นการกระทำผิดขั้นตอน เป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย โดยผู้ตรวจการฯ ยังขอให้รัฐบาลพิจารณาสั่งการให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) พิจารณาจัดส่งบันทึกในประเด็นมติมส.ที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนดังกล่าว กลับคืนไปให้มส.เพื่อให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามขั้นตอนบทบัญญัติของกฏหมายว่าด้วยคณะสงฆ์หมวด 1 สมเด็จพระสังฆราช ตามพรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมพรบ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ต่อไป สำหรับเหตุผลที่ผู้ตรวจการฯชี้ว่ามติของมส.ไม่เป็นไปตามขั้นตอนนั้น เนื่องจากเห็นว่าโดยเจตนารมย์ของมาตรา 7 คือการให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการเสนอนามสมเด็จพระสังฆราช โดยมส.มีอำนาจหน้าที่ให้ความเห็นชอบนามตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอมา และเมื่อมส.เห็นชอบแล้ว นายกฯจึงเสนอนามขึ้นทูลเกล้าฯสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชต่อไป
โดยวันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้อง 901 สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับข้อกฎหมายมาตรา7ของพรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2535 หมวดสมเด็จพระสังฆราช ว่าหน่วยงานใดมีอำนาจในการเสนอชื่อแต่งตั้งพระสังฆราช
+++ส่วนเวลา 9.30น. หลวงปู่พุทธะอิสระ จะเดินทางไปสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ บริเวณพุทธมณฑล เพื่อยื่นเรื่องให้คณะกรรมการมหาเถรสมาคม ตรวจสอบที่ถูกครหาต้องอาบัติปาราชิก
+++ขณะเดียวกันพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรถโบราณ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กทม. ของสมเด็จช่วง ภายหลังทีมฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำฯ ได้ทำหนังสือคืนรถคันดังกล่าวให้กับผู้บริจาคแล้วว่า นั่นคือการแสดงความประสงค์ ซึ่งหมายถึงเจตนารมณ์ที่ได้แจ้งเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นอยู่กับเนื้อหาของกฎหมายว่าเกี่ยวข้องกับผู้ครอบครองรถอย่างไร ซึ่งรถคันดังกล่าวชัดเจนแล้วว่าผิดกฎหมาย แต่ต้องไปดูสถานะผู้ครอบครองรถว่าผิดหรือไม่ ถ้าครอบครองสิ่งที่ผิดกฎหมายแม้จะเอาไปอยู่ในสถานที่ใดก็ผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินคดีต่อไป ไม่เกี่ยวว่ารถคันนั้นจะส่งไปไหน และไม่สามารถจะยุติหรือไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย และ ในวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม เวลา 09.30 น. ตนจะเป็นประธานประชุมผู้เกี่ยวข้องกับรถผิดกฎหมายจำนวน 6,000 คัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ เช่น กรมศุลกากร สรรพสามิต กรมขนส่งทางบกฯลฯ ร่วมกันหารือ ส่วนเรื่องการแก้ไขนั้นอยากให้ไปถามรัฐมนตรีที่ดูแลในเรื่องนี้ เพราะกระทรวงยุติธรรมเป็นปลายเหตุแล้ว
+++กรณีที่เครือข่ายองค์กรชาวพุทธ รณรงค์ให้วัดทั่วประเทศขึ้นป้ายสนับสนุนมติมหาเถรสมาคม(มส.) ให้เสนอนามสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราช จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสมนั้น พระพรหมโมลี (สุชาติ ธมฺมรตโน) ประธานคณะเลขานุการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้ทำหนังสือ ถึงเจ้าคณะใหญ่ทุกหน ใจความว่า การที่วัดต่างๆ ขึ้นป้ายดังกล่าว และมีองค์กรสงฆ์รุ่นใหม่ให้ข่าวลักษณะที่ว่า จะไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลนั้น สร้างความไม่สบายใจแก่พระเถรานุเถระ และพุทธศาสนิกชน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความร้าวฉานต่อกัน จึงขอประทานกราบเรียนว่า ขอได้โปรดแจ้งให้เจ้าคณะพระสังฆาธิการ และพระภิกษุสามเณรในการปกครอง ขออย่าได้ดำเนินการใดๆ อันเป็นการไม่เหมาะสมต่อสมณสารูป หรือความเคลือบแคลงใจแก่ประชาชนทั้งหลาย เพราะการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นสิ่งที่บรรพชิต และคฤหัสถ์ต้องตระหนักให้มั่น เพื่อให้ดำรงคงอยู่ในศูนย์รวมใจของพุทธศาสนิกชนทั้งหลายตลอดยิ่งยืนนาน
การออกหมายเรียก พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พบพนักงานสอบสวนในวันที่ 10 มีนาคม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตาม+++พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณีแช้ตผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โดยอ้างชื่อ พล.อ.รายหนึ่งซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยืนยันกรณีว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีองค์กรตำรวจ โดยผบ.ตร.สั่งให้ร้องทุกข์ฐาน "หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา" โดยการมอบให้ตนเป็นผู้แทนมาร้องทุกข์เพิ่มเติมอีกหนึ่งข้อหา ซึ่งเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ
+++ นายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีตรองประธานศาลฎีกา ในฐานะทนายความ พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 10 มี.ค. ถ้าว่างจะไปด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่ว่างก็จะมีการส่งทนายความไป และหากมีการแจ้งข้อกล่าวหาในวันนั้น ก็จะต้องดูก่อนว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องอะไรบ้าง ส่วนคดีหมิ่นประมาทจะมีการเจรจากันได้หรือไม่นั้น ตนในฐานะทนายความไม่ขอเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้เป็นเรื่องของ พล.ร.อ.พะจุณณ์ แต่เท่าที่ทราบตอนนี้ยังไม่ทราบเลยว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาอะไรบ้าง พล.ร.อ.พะจุณณ์เองก็ยังไม่ได้รับหมายเรียกดังกล่าวแต่อย่างใด ด้านพล.ร.อ.พะจุณณ์เปิดเผยถึงกระแสข่าวการตั้งนายนิติธร ล้ำเหลือ เป็นทนายความว่า ยืนยันว่าได้ตั้งนายนิติธรเป็นทนายความร่วมกับนายอุดมจริง นายนิติธรเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และเคยรับเป็นทนายความดูแลปัญหาด้านกฎหมายให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)
++++ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกนายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ หรือท็อป มือปืนป๊อปคอร์น 37 ปี 4 เดือน ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่ทางแยกหลักสี่
+++นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มเซ็นทรัล” ยืนยันว่าจะไม่มีการขายหุ้นที่ถืออยู่ใน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 25% แต่อย่างใด หลังจากที่กลุ่มของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เมื่อเดือน ก.พ. จากการซื้อหุ้นในส่วนของ “กลุ่มคาสิโน” เมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมร่วมกันระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นบิ๊กซีเลยนับตั้งแต่นายเจริญเข้ามาซื้อหุ้น สำหรับกิจการ “บิ๊กซี” ที่ประเทศเวียดนามซึ่งก็จะมีการขายกิจการเช่นกันนั้น นายทศกล่าวว่า เซ็นทรัลมีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลเช่นกัน ล่าสุดทราบว่าจะมีการเปิดประมูลรอบแรกในวันที่ 10 มี.ค. ศกนี้ คาดว่ามูลค่าการประมูลซื้อขายคงจะอยู่ในระดับ 2 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่ แต่ก็มีความสนใจแน่นอน
+++หลังกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้มีหนังสือบันทึกข้อความ บก.จร.ที่ 0015.(จร) 01/529 ลงวันที่ 19 ก.พ. เรื่องการปรับปรุง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 สให้รวบรวมสถิติข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำ ความผิดและสถิติการชำระค่าปรับฐานความผิดข้อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องย้อนกลับไปเป็นระยะเวลา 3 ปี พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานจราจร เปิดเผย ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พิจารณา เพื่อเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาใช้อำนาจมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 โดยเนื้อเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาผู้กระทำผิดฝ่าฝืนกฎหมายจราจรทางบกหรือกฎหมายอันเกี่ยวกับรถไม่มาชำระค่าปรับ ข้อกฎหมายใหม่ระบุเอาไว้ว่า เมื่อได้รับใบสั่งแล้วไม่ชำระค่าปรับภายใน 7 วัน มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท รวมถึงหากไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งเกินกว่า 30 วันหรือ 1 เดือน มีโทษปรับตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท และถ้าไม่มาชำระค่าปรับตามใบสั่งภายในระยะเวลา 90 วัน หรือภายใน 3 เดือน ถูกดำเนินคดีจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท คาดว่า ภายหลังจากส่งเรื่องให้ ตร.พิจารณาแล้ว เสนอให้ คสช.พิจารณาเห็นชอบบังคับใช้ต่อไป
++++เฟซออฟ ใน วันที่ 7 มี.ค. นี้ทนายความ ดร.เซปิง ไชยสานส์ จะไปแจ้งความที่ สน. บุคคโล และนำหลักฐานไปร้องเรียนที่สคบ.เรื่อง ผศ.นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่ง ในกรณีนายน็อต แม็กซิม ที่ทำศัลยกรรมใบหน้ากับหมอชลธิศ แต่หมอกลับใช้พยาบาลและคนอื่นผ่าตัดแทน ส่วน นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าในวันที่ 4 มี.ค.นี้ สบส.จะมีการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุมคณะอนุกรรมการการโฆษณาสถานพยาบาล พร้อมกับกรณีของพญ.อาภรณ์ ไชยเครื่อง ที่ให้ข้อมูลโอ้อวดสถานพยาบาลว่า ทำแล้วสวยทุกคน และถ้ามาที่คลินิกเคสที่ออกไปจะสวยทุกเคส สำหรับกรณีของนายสุรชัยแพทยสภาระบุว่า เท่าที่ดูน่าจะเป็นการทำศัลยกรรมด้วย เทคนิคเฟซลิฟ คือ เป็นการดึงหน้าทุกส่วน และทำตาฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ไม่ให้เกิดร่องลึกและฟิลเลอร์ให้เต่งตึงและดูดีขึ้นตรงนี้จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน และชื่นชมผลงานที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่าแพทย์ไทยเก่ง เป็นเรื่องที่น่าส่งเสริมแต่การส่งเสริมต้องไม่ใช่การหลอกลวง หรือการโฆษณาชวนเชื่อเกินไป
+++การนำหุ่นจำลองไดโนเสาร์ขนาดใหญ่พันธุ์ไทแรนโนซอรัสหรือทีเร็กซ์ ขนาดความยาว 13 เมตร สูง 4 เมตร น้ำหนักราว 1 ตัน ใส่ท้ายรถบรรทุก นายอุปถัมป์ นิสิตสุเจริญ ผู้บริหาร บริษัท ไรท์แมน เข้าพบ พ.ต.อ.ชณาวิน พวงเพ็ชร ผกก.สน.พญาไท และ ร.ต.อ.จีระศักดิ์ บุญยืนนาน รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและชำระเงินค่าปรับ พร้อมยืนยันไม่มีเจตนาเพื่อประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแต่อย่างใดจะถือเป็นบทเรียนในการเคลื่อนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่ โดยนำรถบรรทุกหุ่นไดโนเสาร์ 2 ตัว มาที่ สน.พญาไท ด้วยทำให้ประชาชนและเด็ก ๆ ที่ผ่านมาพบเห็น วิ่งเข้าไปจับลูบตัวหุ่นด้วยความสนใจพร้อมบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึก โดยถูกเปรียบเทียบปรับใน 5 ข้อหา เช่น "โฆษณาโดยการใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต" "บรรทุกสิ่งของยื่นเกินความยาวของตัวรถไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้ไฟสีแดงธงสีแดงตามที่อธิบดีกำหนด ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก 2522" "และ "จอดรถในพื้นที่ห้ามจอด