*องคมนตรี พอใจการพลิกฟื้นพื้นที่สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงบ้านป่าคาฯ จ.กำแพงเพชร*

03 มีนาคม 2559, 15:15น.


การส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขา ในพื้นที่บ้านป่าคา ตำบลโป่งน้ำร้อน ของอำเภอคลองลาน ของจังหวัดกำแพงเพชร มีอาชีพการทำเกษตรเพื่อที่จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงสอนให้คนในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ติดตามโครงการในพระราชดำริฯ ในเขตพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ โดยพื้นที่แรกที่คณะขององคมนตรี ลงพื้นที่คือ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านป่าคา ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร





นายเกรียงไกร จิระจีรังชัย หัวหน้าสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านป่าคา กล่าวว่า สถานีนี้ตั้งขึ้นตามพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อปี2551 เพื่อต้องการให้เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ การเรียนรู้ทางด้านการเกษตรให้ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งและปกากะญอ ในพื้นที่เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงเพื่อสร้างจิตสำนึกให้คนในพื้นที่ช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในพื้นที่





ส่วนผลการดำเนินงาน สถานีนี้ ได้นำพืชเมืองหนาวมาปลูกและพัฒนาในพื้นที่ เช่น พันธุ์สตอเบอรี่ อโวคาโด้ จากนั้นให้ชาวบ้านนำพันธุ์ไปปลูก ร่วมกับ พืชที่ปลูกเดิมในพื้นที่ อาทิ ข้าวโพด กะหล่ำปลี พริก ขิง มันฝรั่ง ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ นำผลผลิตสตอเบอรรี่ในพื้นที่ ไปขยายพันธุ์และปลูกร่วมกับพืชที่ปลูกอยู่ และนำผลผลิตสตอเบอรี่จำหน่ายที่ตลาดไทย ในจังหวัดปทุมธานี วันละกว่า 10 ตัน มีรายได้วันละกว่า 150,000บาท  ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขาฯในพื้นที่ดีขึ้น  ส่วนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้ทราบถึงประโยชน์และโทษจากการบุกรุกป่า สามารถปลูกป่าเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 459 ไร่ และลดการบุกรุกป่าในพื้นที่ได้อย่างชัดเจน





ขณะที่ องคมนตรี กล่าวว่า โครงการนี้ดำเนินงานตรงตามเป้าหมายพอสมควร ทำให้ชาวบ้านพัฒนาผลผลิตมให้มีราคาสูงขึ้น แต่สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไป คือจะต้องทำให้การคืนผืนป่ากลับคืนมา แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ทำให้เกษตรกรที่ทำไร่เลื่อนลอยกลับมาทำการเกษตรในระบบ พัฒนาชาวบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ



ด้านนายจักรพงษ์ ม้าเจริญตระกูล เกษตรชาวไทยภูเขาเผาม้ง อายุ 43ปี เล่าให้ฟังว่าตั้งแต่อดีตครอบครัวทำไร่ข้าวโพดมาตลอด แต่เมื่อมีการก่อตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริบ้านป่าคา ได้เรียนรู้การทำเกษตรพืชเมืองหนาว และทำงานในสถานีฯ และเมื่อ 2ปีที่ปล้ว ได้ลองนำพันธุ์สตอเบอรี่ไปปลูก เพื่อทดแทนข้าวโพด ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เนื่องจากราคาของสตอเบอรี่ ดีกว่าข้าวโพดมาก โดยเปรียบเทียบ คือ ปลูกข้าวโพด 20ไร่ ยังขายได้ราคาไม่เท่าปลูกสตอเบอร์รี่ 1ไร่  ส่วนระยะเวลาการปลูกข้าวโพด 20ไร่ ใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว รวม 5-6เดือน ได้กำไร 3-4หมื่นบาท  แต่สตอเบอร์รี่เริ่มปลูกได้เดือน ก.ย. ถึง ธ.ค. ก็สามารถเริ่มเก็บได้จนถึงเดือน มี.ค. ทำให้ปีหนึ่งได้กำไรกว่า 3แสนบาท ทุกวันนี้ใช้เวลาว่างกับครอบปลูกในการปลูกสตอเบอรี่ และมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น





ผู้สื่อข่าว : วิรวินท์ ศรีโหมด



 

ข่าวทั้งหมด

X