กรณีทหารเชิญตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย มาปรับทัศนคติและแจ้งขอหาผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เตือนไปหลายครั้งแล้ว สื่ออย่าไปพาดหัวข่าวจับ แค่ทหารไปเชิญ และจริงๆนั้นอยากให้ดูคำสั่งคสช.ว่าอย่างไร มาตรา 44 เขียนว่าอย่างไร การกระทำอะไรที่สร้างความเดือดร้อน สร้างความขัดแย้ง ซึ่งวันนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ดังนั้นเขาไม่ควรจะพูดอะไรที่เสียหาย ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่เป็นประโยชน์ ตนเคยไปยุ่งอะไรหรือไม่ บางคนไม่เป็นประโยชน์ตนก็ยังทน
ส่วนที่จะมีการขยายความร้ององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เหมือนที่เคยทำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปร้อง ตนก็ชี้แจงยูเอ็นตลอดอยู่แล้ว วันนี้ตนก็ให้ทูตชี้แจงในต่างประเทศ ส่งข้อมูลพื้นฐานไปแล้ว ใครทำความผิดอะไรบ้าง พฤติกรรมที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ส่งไปหมดทุกประเทศ ดังนั้นทุกประเทศจะมีชื่อและข้อมูลหมด เวลาใครพูดมาก็ไปชี้แจงเขา เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ คงไม่ปล่อยให้เขาไปฟ้องข้างเดียว
ส่วนวันที่ 5 มี.ค. ซึ่งเป็นวันนักข่าว นายกรัฐมนตรีขอให้สื่อเข้าใจการเมืองคือเรื่องของการเมือง ความขัดแย้งคือเรื่องของความขัดแย้ง ถ้าเอาการเมือง ความขัดแย้ง การพัฒนาประเทศ การปฏิรูป มาปนกันมันจะไม่เกิดอะไรสักอย่าง มันจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิงทั้งหมด เดินหน้าไม่ได้ทั้งหมด
"ฝากสื่อช่วยทำความเข้าใจตรงนี้ ใครจะวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่อย่าให้ร้ายโดยไม่มีข้อมูล พูดกล่าวเฉยๆไม่ได้ ผมปล่อยและให้เกียรติกัน อยากว่าอะไรก็ว่าไป ผมก็ทนทั้งที่จริงทางกฎหมายทำได้แต่ผมก็ยังไม่อยากทำ เพราะมันพวกเรากันเองคนไทยด้วยกัน อย่าให้คนเขามาปลุกปั่นเราเลย คนอยู่ในประเทศ ถูกคนนอกประเทศปลุกปั่นแล้วเราจะไปตามเขาทำไม ถ้าเขาจะมาปลุกปั่นได้ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้นเอง พวกที่อยู่เมืองนอกทั้งหมด อย่าไปพูดข้างนอกมันประจานตัวเอง ผมว่าหลายประเทศเขาเข้าใจเรามากขึ้นเรื่อยๆ " พร้อมทิ้งท้ายว่า โอเคนะ วันนี้อารมณ์ ดี
การให้สัมภาษณ์ของ นายกรัฐมนตรีวันนี้ เป็นไปตามข้อตกลงคือผู้สื่อข่าวจะต้องแจ้งชื่อสังกัดและคำถามที่จะถามนายกรัฐมนตรีกับเจ้าหน้าที่กองงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีล่วงหน้า ซึ่งโดยครั้งนี้กำหนดให้ถามได้ 5 คำถาม ตลอดการให้สัมภาษณ์นายรัฐมนตรีตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ โดยให้มากกว่า 5 คำถาม
CR:คลังภาพ ทำเนียบรัฐบาล