*สรุปข่าว 19.35น*
+++ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติชอบ สปท. กล่าวว่า กรณีที่พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณีโพสต์ข้อความผ่านแอพลิเคชั่นไลน์ เรื่องมีการซื้อขายตำแหน่งตำรวจนั้น ทราบว่าในวันที่ 10 มี.ค.นี้ จะมีหมายเรียกมา แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นหมายเรียก ซึ่รับรองได้ว่าพร้อมที่จะไปตามหมายเรียก ทั้งนี้ ทนายความของตนแนะนำว่า ไม่ควรพูดเรื่องนี้ เพราะต้องการให้อยู่ในกระบวนการของศาล ส่วนกรณีดังกล่าวจะสร้างความแตกแยกให้กับกองทัพหรือไม่ พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก เพราะเป็นเพียงทหารแก่ และทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยไม่ได้มีการต่อสายโทรศัพท์เคลียร์ใจกับใครแต่อย่างใด
+++ด้านที่ประชุมกมธ.ปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ สปท.ได้การหารือถึงคดีที่หมดอายุความ ซึ่งขณะนี้มีหลายคดีที่ทำให้รัฐสูญเสียประโยชน์และงบประมาณเป็นจำนวนแสนล้านบาท โดยเป็นการหมดอายุความทั้งที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ และบางคดีก็ถูกบริษัทเอกชนฟ้องกับเรียกค่าเสียหายอีกด้วย ดังนั้นจึงอยากให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กำหนดเรื่องการหมดอายุความของคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณของรัฐและคดีทุจริต ไม่ต้องมีอายุความ สามารถเรียกกลับมาพิจารณาคดีอีกได้ ซึ่งจะส่งข้อเสนอไปยังนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.โดยตรง เพื่อให้กรธ.กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
+++หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้นำตัวนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าไปภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) แล้วนั้น ต่อมาทางเจ้าหน้าที่กกล.รส. ได้นำตัวนายวัฒนาออกจากร.1 รอ. เดินทางไปมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) เพื่อมาพูดคุยทำความเข้าใจปรับทัศนคติภายในมทบ.11 ภายหลังจากโพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (โฆษก คสช.) กล่าวถึงการเชิญตัวนายวัฒนา เป็นผลสืบเนื่องจากการแสดงออกหรือแสดงความคิดเห็นที่ผ่านมาของนายวัฒนา ที่กล่าวลักษณะพาดพิงบุคคลและองค์กร ที่อาจทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจ คสช.คลาดเคลื่อน เช่น บางเนื้อหามีการกล่าวว่า คสช.สร้างความเสียหาย หรือทำให้เกิดการตกต่ำ รวมทั้งบิดเบือนว่า คสช.จะไม่คืนอำนาจ ส่วนการให้ความเห็นใดๆ ที่ไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจนควรระมัดระวัง และอะไรที่เกินกว่าขีดระดับที่เจ้าหน้าที่ประเมินไว้ ก็จำเป็นต้องตักเตือนและปรับความเข้าใจ" โฆษก คสช.
+++กรณีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ยังทำหน้าที่จัดรายการเล่าข่าวตามเดิม หลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว. ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ กล่าวว่า กรณีที่ข้าราชการหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง จะไปออกรายการของนายสรยุทธนั้น เป็นเรื่องดุลยพินิจทางจริยธรรมคุณธรรมของแต่ละคน ที่จะว่ามองเรื่องคดีทุจริตเป็นอย่างไร เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ต้องคิดเอง เพราะในชั้นนี้ไม่มีกฏหมาย หรือข้อบังคับใด แต่เป็นคุณธรรมจริยธรรม และทัศคติในจิตใจของแต่ละคน และเชื่อว่าองค์กรวิชาชีพสื่อจะมีการกำหนดกติกา ส่วนตัวไม่ขอออกความเห็นเจาะจง เฉพาะกรณีนายสรยุทธ แต่ขอพูดถึงกรณีทุจริตในทุกกรณีว่า ไม่ว่าองค์กร หน่วยงานใด การเมือง หรือภาครัฐหรือเอกชน หากมีความมัวหมอง เรื่องทุจริตแล้วสังคมย่อมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง กระแสที่เกิดขึ้นคือ สังคมกำลังตระหนักกับปัญหาทุจริต เพราะเราบอบช้ำกับเรื่องทุจริตมามาก ประเทศเสียงบประมาณไปจำนวนมากกับปัญหาการทุจริต ซึ่งรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและประกาศจัดการกับปัญหาทุจริต เมื่อถามว่าหากนายสรยุทธเชิญ พล.อ.ไพบูลย์ไปออกรายการจะไปหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ก็ลองทายดูว่า ตนจะไปหรือไม่ และบรรทัดฐานของตนเป็นอย่างไร
+++ด้านสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ได้มีแถลงการณ์ เกี่ยวกับกรณีนี้ระบุว่า ในฐานะของสมาคมผู้ประกอบวิชาชีพด้านวางแผนและซื้อสื่อโฆษณา ขอชี้แจงว่า ผู้ประกอบการมีเดียเอเยนซี่ที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ต่างมีจริยธรรมและหลักธรรมภิบาลในการประกอบวิชาชีพเป็นสำคัญ ดังนั้นการวางแผนและจัดซื้อสื่อโฆษณาให้แก่เจ้าของสินค้า สมาชิกสมาคมฯ ไม่สามารถเป็นผู้ชี้นำในการลงโฆษณาได้ แต่ต้องพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผู้ชม หรือเรตติ้งเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกรายการต่างๆ ในแต่ละเดือน ดังนั้น การจะระงับหรือซื้อโฆษณาในรายการต่างๆ หรือไม่ ต้องพิจารณาจากเรตติ้งเป็นสำคัญ และหากเจ้าของสินค้าไม่ต้องการจะลงโฆษณาในรายการใดๆ ก็ต้องมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งบริษัทมีเดียเอเยนซี่จะนำเสนอทางเลือกอื่นๆ ทดแทนโดยคำนึงถึงความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มผู้ชมภายใต้งบประมาณที่เท่ากันหรือใกล้เคียง
+++การหารือกับนายลุค สตีเวน ผู้ประสานงานสหประชาชาติประจำประเทศไทย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้ย้ำถึงพัฒนาการทางการเมืองของไทยโดยยืนยันว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ และขณะนี้ยังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่องการปฏิรูปที่ไทยได้ตั้งเป้าหมายเพื่อวางรากฐานให้ประเทศไทยพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นในอนาคต ขณะที่ฝ่ายยูเอ็นได้แสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์ในประเทศไทย และได้เห็นถึงพัฒนาการด้านต่าง ๆ รวมถึงความตั้งใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลในการร่างรัฐธรรมนูญให้ดีเพื่อประเทศของตัวเอง ยืนยันว่ายินดีจะให้ความร่วมมือกับไทยในทุกด้าน การหารือในครั้งนี้ไม่มีการสอบถามถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน แต่ ได้แจ้งยืนยันในเรื่องสิทธิมนุษยชนของไทย โดยภาพรวมคนในประเทศไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากทุกคนยังสามารถดำเนินชีวิตไปตามปกติ แต่อาจเป็นเพียงมุมมองจากบางฝ่าย รวมถึงการให้สิทธิเสรีภาพต่อสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารได้อย่างมีอิสระ ซึ่งอาจเรียกได้ว่ามีเสรีภาพมากที่สุดในภูมิภาค
+++ปัญหาอ้วนลงพุง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ได้ประกาศนโยบาย “ผู้บริหาร สธ....ไร้พุงมุ่งสู่สุขภาพดี”10 ข้อ เช่น ให้ผู้บริหารทุกคนเข้าร่วมกิจกรรม ดูแลตัวเองตามหลัก 3อ. อาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์ 2ส. คือสุรา ยาสูบ 3.กินผักและผลไม้ทุกมื้อ 4.ลดการกินอาหารหวาน มัน เค็ม ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำหวานหรือน้ำอัดลม ด้านนพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการตรวจวัดรอบเอวและดัชนีมวลกายของผู้บริหารกระทรวงตามเกณฑ์มาตรฐานของเอเชีย พบว่า มีภาวะอ้วนลงพุงสูงถึงร้อยละ 33 เท่ากับอัตราการอ้วนลงพุงของคนไทยทั้งประเทศ ส่วนตัวก็วัดรอบเอวได้ 97.5 เซนติเมตร ซึ่งมาตรฐานชายไทยรอบเอวไม่ควรเกิน 90 เซนติเมตร ไขมันเกิน รวมแล้วดัชนีมวลกายอยู่ในภาวะอ้วนลงพุง จะต้องลดน้ำหนักลงอีก 15.1 กิโลกรัม ฃ
+++พล.ต.ต.อุดม พหรมสุรินทร์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้ออกคำสั่งให้ย้ายร.ต.ต.นพรัตน์ ชัยวงค์ รองสารวัตรกองรักษาการณ์ ช่วยราชการฝ่ายปกครอง และการฝึกของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฎิบัตการตำรวจภูธธรภาค5 โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (2มี.ค.) และให้ไปรายงานตัวเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ หลังก่อเหตุใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายใต้กระโปรงนักศึกษาสาวรายหนึ่งในร้าน 7-11ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ก่อนหน้านี้มีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมายกับร.ต.ต.นพรัตน์แล้วในข้อหากระทำอนาจารแล้ว.
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,365.31 จุด เพิ่มขึ้น 18.36 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,861.23 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 4 และปิดที่ระดับสูงสุดในรอบราว 3 สัปดาห์ในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจในสหรัฐ ปิดพุ่งขึ้น 661.04 จุด ที่ 16,746.55 จุด
++++ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ดีดตัวสูงขึ้น เนื่องจากกระแสคาดการณ์เรื่องการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง ประกอบกับสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ได้ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของจีนลง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 116.51 จุด ปิดที่ 2,849.68 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดเพิ่มขึ้น 596.03 จุด ที่ 20,003.49 จุด
+++กระทรวงสาธารณสุขคิวบาแถลงว่า คนไข้ติดเชื้อซิกา หลังเดินทางมาถึงคิวบาในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เพื่อเข้าเรียนในหลักสูตรที่สูงกว่าปริญญาตรีทางด้านการแพทย์ ร่วมกับนักศึกษาอื่น ๆ อีก 37 คน เธอแจ้งว่ามีไข้และถูกตรวจพบว่ามีเชื้อไวรัสซิกาเมื่อวันจันทร์ ขณะนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล รายงานแจ้งว่า สามีของเธอก็ติดเชื้อไวรัสซิกาเมื่อสองเดือนก่อนและน้องชายของเธอก็ป่วยด้วยเชื้อไวรัสนี้สองสัปดาห์ก่อนเธอเดินทางมาคิวบา ส่วนที่สโลวะเกีย นายวิลเลียม ซิสลัค รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า ผลการตรวจคนไข้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสซิกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่เมืองเปรเชา ทางตะวันออกของประเทศ แสดงให้เห็นว่า เธอติดเชื้อซิกา แต่ขณะนี้มีอาการดีขึ้นและไม่ต้องรับการบำบัดรักษาใด ๆ อีก