หลังเกิดเหตุระเบิดรถยนต์ ที่จ. ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2559 พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากการตรวจสอบด้วยตัวเอง ได้สอบพยานไปหลายปาก เบื้องต้น สืบทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่เชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นการตอบโต้ของกลุ่มที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้น โดยมีเป้าคือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ไม่มีทางสู้ ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน จึงจะสามารถสรุปเหตุทั้งหมดได้ โดยย้ำในที่ประชุมว่ารูปแบบของคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา ล่าสุดคือ การปล้นรถในตอนเช้า นำรถที่ปล้นมาประกอบเพื่อใช้ก่อเหตุม โดยใช้ระยะเวลาในการประกอบระเบิดประมาณ 3 ชั่วโมง ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องปรับเปลี่ยนการทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ส่วนการติดตั้งระบบเทคโนโลยีการต่อต้านการก่อการร้ายของสหพันธรัฐรัสเซีย พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่า หลังจากไปดูงานที่รัฐเซีย พบว่าเครื่องมือดังกล่าวมีการป้องกันรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม มีระบบแจ้งเตือนการก่อการร้าย แต่ติดในเรื่องของงบประมาณ เนื่องจากการติดตั้ง 1 จุด จะต้องใช้งบประมาณประมาณ 30 ล้านบาท โดยระบบนี้สามารถใช้งานได้ในวงจำกัด ไม่สามารถครอบคุลมได้ทั้งหมด ทั้งนี้ได้มอบหมายให้พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปตรวจสอบจุดเสี่ยงในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว
สำหรับความคืบหน้าการค้าสำนนวน ในพื้นที่ สน. บวรมงคล พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กำลังตรวจสอบอยู่ และกองบัญชาการตำรวจนครบาลยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เนื่องจากต้องรอให้ป.ป.ท. ตรวจสอบก่อน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกระทำความผิดจริงจะต้องได้รับโทษสูงสุด โดยส่วนตัวแล้วยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว