การจัดระเบียบการจราจรในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบให้ พลตำรวจเอกวุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในการประชุมจัดระเบียบการจราจรในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค1,2,5,8 และ 9 และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว
พลตำรวจเอกวุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าการจัดการจราจรในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจะเริ่มปฏิบัติการอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ ในพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ จังหวัดพัทยา เชียงใหม่ เชียงราย สมุทรปราการ อยุธยา เกาะสมุย ภูเก็ต และหาดใหญ่ โดยเน้นไปที่ 10 ข้อหาหลักต้องห้ามที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการได้แก่ ขับขี่รถบนทางเท้า ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ข้ามถนนผิดกฎหมาย/ไม่หยุดรถให้คนข้าม ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับรถประมาทหวาดเสียว ขับรถขณะเมาสุรา ไม่สวมหมวกนิรภัย ก่อมลพิษทางเสียง จอดรถในที่ห้าม และจองถนนเป็นที่จอดรถ

ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การจัดระเบียบในครั้งนี้เป็นหนึ่งในมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากปี 2558 ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก และด้วยสัดส่วนของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปีทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรตามแหล่งท่องเที่ยว ทั้งการจราจรที่ติดขัด และมีอุบัติเหตุทางท้องถนน จึงต้องจัดระเบียบการจราจรเพื่อเพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีเป้าหมายเน้นการคุณภาพและการเติบโตอย่างยั่งยืนส่วนปัญหานักท่องเที่ยวจีนที่นิยมนำรถบ้านเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า คาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกฎระเบียบ ที่จะนำมาบังคับใช้ภายใน 1 เดือนซึ่งมีประเด็นหลัก ๆ คือต้องมีการแจ้งขออนุญาตล่วงหน้าเพื่อนำรถบ้านเข้าประเทศ และมีการทำประกันภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แจ้งพื้นที่ที่จะนำรถเข้ามาใช้ ประเภทรถ น้ำหนักรถ ความจุของคน โดยหลังจากได้ข้อสรุปจะมีการประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ด้วย

นอกจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาการจราจร และอุบัติเหตุทางท้องถนนที่สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาวินัยจราจร รวมถึงเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น หรือหากพบเห็นพฤติกรรมการขับขี่ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสี่ยงอันตรายต่อผู้อื่น สามารถแจ้งที่สายด่วน 1197 หรือ 191
*-*
ผสข.พนิตา สืบสมุทร