ในการกล่าวเปิดการประชุมกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา หรือ จี77 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช) กล่าวว่า เป็นเกียรติที่ไทยได้รับความไว้วางใจรับหน้าที่ประธานกลุ่มจี 77 ซึ่งไทยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยจะนำวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ.2030 มาปฏิบัติ เพราะทุกวันนี้โลกมีความท้าทายเร่งด่วน ทั้งความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การเปลี่ยนแปลงทางภาคภูมิอากาศ ความขัดแย้ง ความรุนแรงทางการเมืองและสังคม ทำให้ผู้คนต้องอพยพเพื่อความอยู่รอด แต่สิ่งที่จะทำไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะที่ผ่านมาไทยก็ประสบปัญหา เช่นเดียวกันจากวิกฤติเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ จึงต้องทำให้นำเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ซึ่งไม่ใช่การปิดประเทศ แต่เป็นความพอดีและความพอประมาณบนพื้นฐานเหตุผลที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ทุกบริบท และจะเป็นเสมือนวัคซีนที่ช่วยคุ้มกันจากความประมาทรวมถึงผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยสนับสนุนและส่งเสริมให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งโดยใช้แนวทางประชารัฐ ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐ ประชาชน และเอกชน ให้สามารถยืนได้ด้วยตนเอง สำหรับการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น ทุกประเทศที่พัฒนาแล้วและยังไม่พัฒนาจะต้องร่วมมือกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และไทยก็พร้อมที่จะแลกเปลี่ยน พร้อมแสวงหาความเหมือนในความต่าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ การเผยแพร่แนวทางการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประเทศไทยน้อมนำมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศมากว่า 40 ปี ให้แก่ประเทศสมาชิกกลุ่ม 77 ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 134 ประเทศในสหประชาชาติ ในฐานะแนวทางหนึ่งที่สามารถสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า การประชุมที่เป็นการประชุมครั้งแรกของกลุ่มประเทศ 77 ในประเทศไทย นับตั้งแต่ไทยรับตำแหน่งประธานกลุ่มประจำนครนิวยอร์ก เมื่อเดือนมกราคม 2559 รวมถึงยังเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยในการนำเสนอให้ประเทศสมาชิกกลุ่ม 77 เข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนเชื่อมโยงกับวาระที่สหประชาชาติและประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ความสำคัญในระยะ 15 ปีข้างหน้าให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ตามบริบทของประเทศตนเองต่อไป
...
ผสข.วิรวินท์ ศรีโหมด