*ป.ป.ช. ทยอยไต่สวน พยานบุคคล กรณีความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว *

ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  มีมติดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในประเด็นเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยให้ไต่สวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง จำนวน 4 ราย  มีรายงานว่า ทั้ง 4 ราย จะทยอยเข้าให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้าต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งแต่วันวันอังคารที่ 3 มิถุนายน 13.30 น. นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลพุธที่ 4 มิถุนายน 13.30 น. ส่วนพฤหัสที่ 5 มิถุนายน 09.30 น. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง และศุกร์ที่ 6 มิถุนายน 09.30 น. ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือ ผู้แทนหลังจาก คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีนายกุลิศ เป็นประธาน ได้ตรวจสอบผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปีกว่า พบว่ามีผลขาดทุนสูงขึ้นกว่าเท่าตัว หรือขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาขายต่ำกว่าราคาต้นทุน 1.5 หมื่นบาทต่อตัน โดยคำนวณต้นทุนข้าวเปลือกที่แปรสภาพเป็นข้าวสารไว้เฉลี่ยที่ราคา 2.3 หมื่นบาทต่อตัน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวไปที่ราคา 1.2-1.4 หมื่นบาทต่อตัน และเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการได้ขายข้าวไปด้วยราคาเพียงตันละ 8 พันบาทเท่านั้น ทำให้มีส่วนต่างราคาขายกับราคาต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งทำให้โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าข้าวสารหายไปจากสต๊อกอีกราว 2.8 ล้านตัน โดยปรากฏว่าในสต๊อกไม่มีข้าวอยู่จริง เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชีเท่านั้นคาดว่าจะทำให้ผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวจะเพิ่มมากกว่า 5 แสนล้านบาท