สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ชมการทดสอบขีปนาวุธเลเซอร์นำวิถีสำหรับใช้ในการโจมตีรถถังได้ และผู้นำเกาหลีเหนือ ประกาศว่าเป็นระยะการยิงขีปนาวุธที่ไกลที่สุดในโลก รวมทั้งยังมีความแม่นยำเหมือนการยิงปืนไรเฟิลของนักแม่นปืนไกล หรือสไนเปอร์ ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า มีความพอใจอย่างมากต่อความสำเร็จในการพัฒนาขีปนาวุธดังกล่าว เพราะมั่นใจว่า รถถังหุ้มเกราะพิเศษและนวัตกรรมยานยนต์ที่มีสมรรถนะสูงของศัตรูก็เป็นเพียงฟักทองต้มเท่านั้น เพราะความแม่นยำของขีปนาวุธนำวิถีที่สามารถเคลื่อนที่ได้
ขณะเดียวกัน ก็ได้มีการมอบนโยบายในการเร่งผลิตขีปนาวุธดังกล่าวออกมาให้มากขึ้น เพื่อเสริมสมรรถนะแก่หน่วยรบแนวหน้าและหน่วยป้องกันภัยทางทะเล ปัจจุบัน รัฐบาลเผด็จการเกาหลีเหนือ ยังคงทุ่มงบประมาณมหาศาลด้านการทหาร โดยมีรายงานว่าในจำนวนประชากรทั้งหมด 25 ล้านคน ในจำนวนนี้ถูกเกณฑ์เป็นทหารราว 1ล้าน 500,000 นาย ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าทหารในเกาหลีใต้ถึงเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ของเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ล้าสมัยและกองทัพเกาหลีเหนือก็กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ นั่นคือการขาดแคลนพลังงานอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่อถูกบทลงโทษฉบับใหม่จากสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพราะไม่พอใจที่เกาหลีเหนือ ฝ่าฝืนข้อเรียกร้องของนานาชาติด้วยการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกลเมื่อต้นปี ซึ่งหนึ่งในบทลงโทษคือการห้ามส่งเชื้อเพลิงการบินแก่เกาหลีเหนือ
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP,KCNA