ก.คลัง เตรียมอัดฉีดงบฯ ลงทุนภาครัฐ กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศแทนพึ่งส่งออก

26 กุมภาพันธ์ 2559, 14:55น.


การเตรียมรับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหาการฟื้นตัว นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจยุโรป และ สหรัฐฯ มีภาวะเปราบางแต่ไม่ถึงขั้นมีปัญหาเศรษฐกิจถดถอย  ส่วนจีนต้องการปรับลดความร้อนแรงเศรษฐกิจจากเดิมขยายตัวร้อยละ 7-8 เพื่อรักษาเสถียรภาพ ขณะที่ญี่ปุ่นยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน รัฐบาลไทยมองเห็นสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว จึงเตรียมพร้อมรับมือผ่านมาตรการต่างๆ ทั้งการอัดฉีดงบประมาณเพื่อลงทุนภาครัฐ การกระตุ้นการบริโภค  เพื่อให้ภาคเอกชนเกิดความมั่นใจใจการลงทุน ยอมรับว่าอาจต้องใช้เวลาในการสร้างความแข็งแกร่งจากเศรษฐกิจภายในประเทศแทนการพึ่งการส่งออก ยอมรับว่าไทยยังต้องการพึ่งพาการส่งออกตามแนวชายแดน เช่น กลุ่ม CLMV แทนตลาดหลักที่ชะลอตัวลง มองว่าการส่งออกเดือนมกราคมติดลบร้อยละ 8.91 เพราะเศรษฐกิจหลักทั้งจีน ญี่ปุ่น แต่หวังว่า ช่วงเวลาที่เหลือน่าจะเป็นบวกและดีกว่าปีก่อน สำหรับการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบขณะนี้เป็นระดับที่เหมาะสมไม่ได้สูงเกินไป เพราะยอดการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล 390,000 ล้านบาท มีสัดส่วนร้อยละ 3 ของจีดีพี



สำหรับแนวคิดการปรับเพิ่มอัตราภาษีจะไม่ให้กระทบต่อผู้มีรายได้น้อย จึงต้องใช้การปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิต เพราะเป็นช่องทางหารายได้เพิ่มในอนาคตของรัฐบาล จึงสั่งการให้กรมสรรพสามิตจัดทำแผนรายได้ในช่วงระยะเวลา 5-10 ปี เช่น การจัดเก็บภาษีจากสินค้าฟุ่มเฟือย ภาษีสินค้าส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าทำลายสุขภาพ จัดเก็บภาษีจากสินค้าขัดขวางการพัฒนานวัตกรรม เช่น บริโภคไปแล้วทำลายสมอง ส่งผลยับยั้งการคิดค้นพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ



ส่วนผลการศึกษาโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาทั้งการปรับอัตราภาษี ค่าลดหย่อนประเภทใดไม่เหมาะสมตัดออก และเพิ่มในส่วนที่จำเป็นภายใต้หลักคิดการดึงบุคคลที่อยู่นอกฐานภาษีกลับมาเสียภาษีและการเสียภาษีไม่สร้างภาระสูงขึ้นกับประชาชน เพื่อนำรายได้ที่เหลือไปจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านการบริโภค จึงเตรียมเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาในขั้นต่อไป



CR:แฟ้มภาพ 

ข่าวทั้งหมด

X