*คลัง แถลงภาวะศก./หุ้น-น้ำมันโลกพุ่งขึ้นสวนทางทองคำลดลง*

26 กุมภาพันธ์ 2559, 10:39น.


+++ความเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการส่งออกเดือน ม.ค.ร่วงหนักติดลบร้อยละ 8.91 ต่อเนื่องเดือนที่ 13 มูลค่าอัตราขยายตัวต่ำสุดรอบ 4 ปี 2 เดือน นับจากเมื่อเดือน พ.ย. 2554 โดยเป็นการลดลงในทุกหมวดสินค้า นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกเดือน ม.ค. ที่ลดลงมากไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะเป็นเพียงแค่เดือนเดียวในปีนี้ อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์จะพยายามผลักดันให้มูลค่าการส่งออกสินค้าของประเทศในปีนี้ สามารถขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 5 โดยขณะนี้มีแผนการทำงานหลายส่วนทั้งการเจาะตลาดต่าง ๆ เพื่อให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้เป็นไปตาม เป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งเอาไว้  กระทรวงพาณิชย์จะประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธ.ป.ท.) เดินหน้าวางแนวทางแก้ปัญหา



+++สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือน ม.ค. ห้องแถลงข่าวกระทรวงการคลัง



+++ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ ปิดที่ 33.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ ปิดที่ 35.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันทั้งสองสัญญาขยับอยู่แดนลบในช่วงต้นของการซื้อขาย แต่หลังจากนั้นก็พุ่งขึ้นตามรายงานข่าวอ้างคำบอกเล่าของรัฐมนตรีพลังงานเวเนซุเอลาที่เปิดเผยว่า กำลังเตรียมประชุมกับชาติผู้ผลิตอื่นๆในเดือนมีนาคม เพื่อหารือถึงแนวทางสร้างเสถียรภาพ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียกับสมาชิกโอเปกอย่างซาอุดีอาระเบีย เวเนซุเอลาและกาตาร์ แถลงว่าบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในตรึงกำลังผลิต ซึ่งจะเปิดทางให้ประเทศผู้ผลิตหลักอื่นๆดำเนินการแบบเดียวกัน



+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นช่วยลดความกังวลว่าธนาคารต่างๆอาจได้รับผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้ และนักลงทุนเห็นโอกาสในการช้อนซื้อหลังจากวอลล์สตรีทตกอยู่ท่ามกลางความผันผวนช่วงหลายสัปดาห์ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 212.30 จุด  ปิดที่ 16,697.29 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.90 จุด ปิดที่ 1,951.70 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 39.60 จุด ปิดที่ 4,582.21 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯขยับขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปิดบวก ขณะที่ราคาน้ำมันกลายเป็นอิทธิพลหลักของตลาดในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าอุปสงค์ทางพลังงานที่อ่อนแอคือสัญญาการเติบโตอันเฉื่อยชาของเศรษฐกิจ



+++ราคาทองคำ  ขยับลงเล็กน้อย นักลงทุนขายทำกำไร หลังจากพุ่งขึ้นอย่างแรง 2 วันก่อนหน้านี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 1,238.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) ถึงแนวทางการให้เอกชนดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) มอเตอร์เวย์ 2 สาย บางใหญ่-กาญจนบุรี และบางปะอิน-โคราช



+++ด้านนายออมสิน  ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดทดลองใช้รถโดยสารไฟฟ้าวิ่งในเส้นทาง สาย A1 บริเวณอาคาร 1 ประตู 5 ท่าอากาศยานดอนเมือง



+++บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานประจำปี 2558 โดยนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ที่ปตท.สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต



+++ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดสัมมนา เดินหน้าเศรษฐกิจไทย กับ บริบทใหม่ (new normal)  ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก



+++มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เปิดเวทีเสวนาวิชาการเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์อาเซียน วิเคราะห์ลู่ทางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเทศต่างๆ ในอาเซียน จากผู้แทนสมาคมอสังหาริมทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย



+++ติดตามความคืบหน้าการตรวสจสอบความเสียหายร้านอาหารแคนตั้นเฮ้าส์ เลขที่ 530 แยกเฉลิมบุรี ถนนเยาวราช แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ พ.ต.ต.ภัชชภณ สุประดิษฐ์ สารวัตร(สอบสวน) สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมทั้ง พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณชั้น 1 โซนห้องครัว กำลังลุกลามไปยังถังแก๊ส ก่อนขึ้นไปที่ชั้น 2 ระหว่างนั้นมีแก๊สระเบิดอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำเพื่อดับเพลิง ใช้เวลากว่า 30 นาทีเพลิงจึงสงบ รีบนำถังแก๊สกว่า 20 ใบออกจากร้าน เพื่อเปิดวาล์วระบายแก๊สออก เนื่องจากเกรงจะระเบิดซ้ำ



+++พล.ต.ต.ทรงพล เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนมาส่งแก๊ส มีการสับเปลี่ยนถังแก๊ส ขณะนั้นในครัวประกอบอาหารไปด้วย ก่อนจะมีประกายไฟ เด็กส่งแก๊สคนดังกล่าวจึงรีบวิ่งออกมาหน้าร้านพร้อมตะโกนบอกก่อนจะเกิดเป็นเพลิงไหม้ ทั้งนี้ ต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งเจ้าของร้านอาหารแคนตั้น เฮ้าส์, เจ้าของโรงแรมไชน่าทาวน์ และธนาคารธนชาติ เพื่อตรวจสอบความเสียหาย เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นอาคารอยู่ระหว่างโรงแรมไชน่าทาวน์กับธนาคารรวมทั้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ เบื้องต้นต้องปิดร้านอาหารแคนตั้น เฮ้าส์ชั่วคราว พร้อมทั้งประสานวิศวกรโยธาเข้าตรวจสอบโครงสร้างตัวอาคารอย่างละเอียด



+++พ.ต.อ.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล รรท.ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ร้านอาหารแคนตั้น มีผู้บาดเจ็บ 3 คน คือ นายขวัญชัย สุทาพจน์ อายุ 35 ปี ผู้ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนถังแก๊สภายในร้าน ถูกไฟไหม้ที่แขนทั้ง 2 ข้าง นายชูเกียรติ์ สิริวุฒิชัยโชติ อายุ 16 ปี ถูกไฟไหม้เล็กน้อยที่ข้อศอกข้างขวา และนายสา (ไม่ทราบนามสกุล) ชาวพม่า ถูกไฟไหม้เล็กน้อยที่แขนซ้าย แพทย์อนุญาตให้ทั้ง 3 คนกลับบ้านแล้ว



+++การติดตามหาคนร้ายอุ้มฆ่านายสมนึก หรือเสี่ยตุ้ม จรูญจิรเสถียร อายุ 57 ปี หุ้นส่วนบ่อนการพนัน ไพลินฟลามิงโก้กาสิโน ฝั่งตรงข้ามด่านบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ถูกอุ้มตัวหายไปอย่างลึกลับขณะไปรับประทานอาหารกับเพื่อนตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. จนถูกพบกลายเป็นศพฝังดินในป่าหลังวัดโอโจกอม จ.ไพลิน ประเทศกัมพูชาห่างจากบ่อนประมาณ 5 กม. สภาพมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ลำคอด้านหลังและหลังทะลุหน้าอก รวม 2 นัด โดยตำรวจพุ่งปมฆ่าล้างหนี้ 32 ล้านบาท มีรายงานว่า ตำรวจ จ.ไพลิน ร่วมกับตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ จากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กว่า 40 นาย ได้จู่โจมเข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่งในกรุงพนมเปญ หลังสืบทราบว่าเป็นที่กบดานของผู้ต้องสงสัยในคดีอุ้มฆ่าเสี่ยตุ้ม แต่ปรากฏว่าผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเกิดไหวตัว ขนย้ายข้าวของหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึง  ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายซอ เค็ง รมว.มหาดไทย ประเทศกัมพูชา ให้ความสนใจคดีนี้เป็นพิเศษ สั่งการให้มีการตั้งทีมตำรวจจากกรุงพนมเปญ เป็นชุดเฉพาะกิจร่วมกับตำรวจ จ.ไพลิน ร่วมกันคลี่คลายคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว เบื้องต้น คาดว่า แก๊งคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างค้นหารถเก๋งโตโยต้า คัมรี ที่เสี่ยตุ้มนั่งไปก่อนจะถูกสังหาร เพื่อนำไปเชื่อมโยงหาเบาะแสคนร้าย



+++พล.ต.ต.เจีย จันดิน ผบก.ตำรวจ จ.ไพลิน กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจกัมพูชาอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด พล.ต.ต.เจีย อ้างว่า มีความเป็นไปได้ว่าผู้ร่วมก่อเหตุอุ้มฆ่าเสี่ยตุ้มเป็นคนไทยทั้งหมด ไม่มีชาวกัมพูชาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากตำรวจ จ.ไพลิน หนึ่งในชุดคลี่คลายคดีอีกว่า ขณะนี้ตำรวจกัมพูชาได้ตั้งประเด็นการสังหารเสี่ยตุ้มไว้ 2 เรื่อง คือฆ่าล้างหนี้ และฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากวันที่เสี่ยตุ้มเสียชีวิตได้นำทรัพย์สินติดตัวไปจำนวนมาก ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขออนุมัติจากศาลออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง



 



 

ข่าวทั้งหมด

X