+++รัฐบาลออสเตรเลีย ออกประกาศเตือน หลังสืบทราบเบาะแสจากข่าวกรองว่า กลุ่มก่อการร้ายกำลังวางแผน เตรียมการขั้นสุดท้าย เพื่อลงมือโจมตีอินโดนีเซีย พร้อมกับแนะนำบรรดานักเดินทาง ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เมื่อเดินทางไปเยือนอินโดนีเซีย รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นเกาะบาหลี มีสิ่งบ่งชี้เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า การโจมตีอาจจะอยู่ในขั้นเตรียมการสุดท้าย เตือนนักเดินทางให้พยายามหลีกเลี่ยงสถานที่สำคัญทางศาสนา และในช่วงวันหยุด แต่ออสเตรเลีย ไม่ได้ยกระดับการเตือนภัยโดยรวม สำหรับชาวออสเตรเลียที่จะเดินทางไปยังอินโดนีเซีย คำแนะนำมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากออสเตรเลีย ประกาศเตือนกลุ่มก่อการร้าย อาจจะกำลังวางแผน โจมตีในและรอบนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงมาเลเซีย
+++เมื่อวันที่ 14 ม.ค. อินโดนีเซียเพิ่งถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตีครั้งใหญ่ ย่านใจกลางกรุงจาการ์ตา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ศพ และหลังเกิดเหตุกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ออกประกาศแสดงความรับผิดชอบ
+++กลุ่มแฮกเกอร์ ผู้สนับสนุนไอเอสขู่จะโจมตีเว็บไซต์เฟซบุคและทวิตเตอร์ เพื่อตอบโต้ความพยายามของเฟซบุคและทวิตเตอร์ที่ขัดขวางไม่ให้กลุ่มไอเอสใช้สื่อออนไลน์ได้อย่างสะดวกเหมือนแต่ก่อน กลุ่มดังกล่าว อ้างว่าสามารถแอบเจาะข้อมูลจากผู้ใช้เฟซบุคกว่า 10,000 ราย ผู้ใช้เฟซบุคเป็นกลุ่มอีก 150 กลุ่มและบัญชีทวิตเตอร์อีกกว่า 5,000 บัญชี จะส่งมอบหลายบัญชีให้กับกลุ่มไอเอสต่อไป
+++นายนิค รัมมุสเซน ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามก่อการร้ายแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมประชุมคณะทำงานดรีมทีมร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ ระดมความพยายามจากทุกภาคส่วนในการปราบปรามใช้สื่อออนไลน์ส่งข้อความของกลุ่มไอเอส ผู้บริหารจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ แสดงความคิดเห็นและบอกให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านข่าวกรองสหรัฐฯทราบว่า การปราบปรามการใช้สื่อออนไลน์ของกลุ่มไอเอสมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบริษัททวิตเตอร์ ระบุว่า เมื่อต้นเดือน ได้บล็อกบัญชีออนไลน์กลุ่มไอเอสราว 2 แสน 50,000 บัญชี
+++คณะกรรมการเจรจาระดับสูง(เอชเอ็นซี) แกนนำฝ่ายต่อต้านซีเรีย สนับสนุนแผนหยุดยิง 2 สัปดาห์ในซีเรีย เพื่อประเมินสถานการณ์ดูว่าฝ่ายรัฐบาลจริงใจที่จะปฏิบัติตามแผนหรือไม่ ภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งสองฝ่ายจะต้องตอบรับข้อเสนอหยุดยิง ภายในเวลา 10.00 น.ของวันศุกร์นี้ ก่อนจะเริ่มยุติการหยุดยิงในวันเสาร์
+++ด้านสหประชาชาติ(ยูเอ็น)หวังว่าข้อตกลงนี้จะช่วยให้คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายของซีเรียกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพอีกครั้ง หลังการเจรจารอบล่าสุดที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ยุติลงโดยไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
+++สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ศรีลังกาเผชิญกับภาวะไฟฟ้าดับทั่วประเทศ เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยเครือข่ายไฟฟ้าล่ม ขณะที่ นายกรัฐมนตรีจอห์น คีย์ ของนิวซีแลนด์ กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศอย่างเป็นทางการ โฆษกสำนักงานคณะกรรมการการไฟฟ้าซีลอน ของทางการศรีลังกา กล่าวว่า ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าค่อยๆ จะรื้อฟื้นกลับคืนทั่วประเทศ หลังจากฟ้าผ่าสายส่งกระแสไฟที่สถานีหลัก และกำลังดำเนินการสอบสวน
+++นายรันจิต สิยามพลพิทยา รมว.พลังงาน กล่าวแสดงความสงสัยว่าฟ้าผ่าสายส่งกระแสไฟคือสาเหตุ เหตุที่เกิดขึ้นทำให้การจราจรตามท้องถนนในเมือง ที่ติดขัดหนักอยู่แล้ว กลายเป็นความปั่นป่วน เมื่อผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะต่างๆ ต้องติดค้างอยู่บนถนนหลายชั่วโมง เนื่องจากไฟสัญญาณจราจรขัดข้อง และตำรวจไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ ร้านค้าและสำนักงานปิดก่อนเวลา ขณะที่การประชุมรัฐสภาต้องหยุดชะงักกลางคัน เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอาจต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง กว่าจะแก้ไขให้ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้
+++การเลือกตั้งสภานิติบัญญัติและสภาผู้เชี่ยวชาญของอิหร่านในวันนี้ อาจจะดำเนินไปอย่างสูสีและมีความสำคัญต่อทิศทางในอนาคตของอิหร่าน สำหรับสภาผู้เชี่ยวชาญ จะทำหน้าที่คัดเลือกผู้นำสูงสุดอิหร่านคนต่อไป การเลือกตั้งในวันนี้ เป็นการลงประชามติต่อประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี นักการเมืองสายกลางของอิหร่าน ว่าควรจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ หลังดำรงตำแหน่งมา 2 ปี 6 เดือน ที่สำคัญคือเป็นโอกาสที่ชาวอิหร่านจะได้ตัดสินใจเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ที่นายโรฮานีลงนามไว้กับชาติมหาอำนาจของโลก มีผลระงับโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน แลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ
+++ความเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รายงานว่า บรรยากาศการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังไม่มีวี่แววที่จะฟื้นตัว เนื่องจากความผันผวนของตลาดการเงินโลก การบริหารนโยบายการเงินและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง คาดว่าอาจจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.4 ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังไม่ส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างเต็มที่ เสนอให้รัฐบาลนานาประเทศเพิ่มการลงทุนสำหรับนโยบายเศรษฐกิจในระยะใกล้
+++บริษัทชาร์ป หนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกจากญี่ปุ่น บรรลุข้อตกลงกับบริษัทฟ็อกซ์คอนน์จากไต้หวัน ในการให้บริษัทหองไห่ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของฟ็อกซ์คอนน์ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของชาร์ป คือร้อยละ 65.9 คิดเป็นมูลค่า 4 แสน 89,000 ล้านเยน ( ราว 1 แสน 54,504 ล้านบาท ) ต่ำกว่าราคาที่มีการประเมินก่อนหน้านี้เล็กน้อย แต่ส่งผลให้หุ้นของชาร์ปปรับตัวขึ้นทันทีร้อยละ 4.5 ในช่วงครึ่งวันเช้าของการซื้อขายในตลาดโตเกียว สื่อญี่ปุ่นหลายแห่งรายงานว่า ผู้บริหารของชาร์ป ตอบรับข้อเสนอของฟ็อกซ์คอนน์ หลังอีกฝ่ายให้คำมั่นเรื่องการให้ชาร์ปดำเนินกิจการต่อไปภายใต้ชื่อเดิม แตกต่างจากข้อเสนอของกลุ่มบริษัทเครือข่ายนวัตกรรมแห่งญี่ปุ่น ( ไอเอ็นซีเจ ) ที่อาจนำไปสู่การยุบกิจการทั้งหมดของชาร์ปให้อยู่ภายใต้ชื่อของไอเอ็นซีเจ หมายความว่าการรักษาเครื่องหมายการค้าและชื่อของ ชาร์ป ให้อยู่ในตลาดต่อไป คือปัจจัยสำคัญของการตัดสินใจ ท่ามกลางวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ภายในองค์กรเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้ชาร์ปต้องขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งใหญ่จากธนาคารหลายแห่งในประเทศ
+++รัฐบาลกรีซเรียกเอกอัครราชทูตประจำออสเตรียกลับ หลังมีปัญหาขัดแย้งอย่างรุนแรงในบรรดารัฐสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ในเรื่องการแก้ปัญหาวิกฤติผู้อพยพที่ประเทศเบลเยียม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังออสเตรียเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกับ 8 ชาติในแถบคาบสมุทรบอลข่านเรื่องการแก้ปัญหาผู้อพยพ แต่กรีซไม่ได้รับเชิญให้ร่วมประชุมด้วย รัฐบาลกรีซระบุถึงการกระทำของออสเตรียถือว่าไม่มีความเป็นมิตร
+++ความเสียหายจากพายุทอร์นาโดพัดกระหน่ำพื้นที่ตามแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 ศพในเขตรัฐเวอร์จิเนีย นายแทร์รี แม็คออลิฟ ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากพายุทอร์นาโดทำลายอาคารบ้านเรือนในพื้นที่จำนวนมาก และประชาชนหลายพันไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
+++ส่วนที่เขตมิดเวสต์ หรือภาคกลางตอนบนของสหรัฐฯ เกิดทั้งพายุและเกิดหิมะตกหนัก ลมแรงมาก ทำให้โรงเรียนปิดการเรียนการสอนในหลายรัฐ และมีรายงานเที่ยวบินโดยสารกว่า 1,100 เที่ยว ที่สนามบินหลัก 2 แห่งของเมืองใหญ่ชิคาโก ประกาศยกเลิกการให้บริการ คาดว่ารัฐอินเดียนาจะได้เห็นหิมะตกหนักที่สุด