*กกต.วางกรอบทำประชามติ รณรงค์ไม่รับร่างรธน.ทำได้ระวังอย่าเป็นเครื่องมือฝ่ายการเมือง*

25 กุมภาพันธ์ 2559, 14:27น.


หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ประชุมหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเพื่อหารือเรื่องการทำประชามติ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ฝ่ายบริหารจัดการเลือกตั้ง เปิดเผยถึง การรณรงค์เพื่อไม่รับร่างรัฐธรรมนูญว่าสามารถทำได้ แต่จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองหรือสร้างความเสียหายแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมยืนยันว่า ไม่มีการจำกัดสิทธิในการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะต้องกระทำภายในขอบเขตที่มี ส่วนการให้กองทัพ นักศึกษาวิชาทหาร และกำนันผู้ใหญ่บ้าน สามารถกระทำได้ในฐานะเครื่องมือประชาสัมพันธ์ของ กกต. แต่ไม่มีสิทธิ์ในการชี้นำว่าจะให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ



ส่วนการเตรียมการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้นมีการหารือ 3 ประเด็น ได้แก่ เกณฑ์การตัดสินผู้ที่มาออกเสียงประชามติที่จะใช้เสียงผู้มาใช้สิทธิ์มากที่สุดเป็นเกณฑ์ ซึ่งขณะนี้กำลังหาข้อความที่เหมาะสมชัดเจนที่สุด ,การยกเลิกหลักเกณฑ์การส่งร่างรัฐธรรมนูญให้กับประชาชนร้อยละ 80 โดย หลังจากที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ส่งร่างรัฐธรรมนูญให้ คณะรัฐมนตรี(ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  พร้อมสรุปสาระสำคัญ มายัง กกต. จัดให้มีการประชามติ ภายใน 90 วัน แต่ไม่เกิน 120 วัน ซึ่งวันลงประชามติ จะเป็นไปตามกำหนดเดิมแต่ไม่เกิน 7 วันจากที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ ,และขยายเกณฑ์อายุผู้มีสิทธิลงประชามติจากเดิมที่กำหนดให้มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคมของปีที่มีการลงประชามติ เป็น มีอายุครบ 18 ปี นับตั้งแต่วันที่มีการออกเสียงประชามติ เพื่อเป็นการขยายฐานของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงให้มากขึ้น และสอดคล้องกับหลักการในร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. อีกด้วย



นายสมชัย กล่าวถึงการจัดพิมพ์เอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ ว่าจะมีการจัดพิมพ์ 3 รูปแบบ ได้แก่ การจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม จำนวน 1.2 ล้านฉบับ ไปยังชุมชน ที่ทำการกำนันผู้ใหญ่บ้าน แหล่งการศึกษานอกโรงเรียน ศูนย์การเรียนรู้ กกต. การจัดพิมพ์สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เกิน 20 หน้า จำนวน 6 ล้านฉบับ แจกให้แก่ประชาชนที่มีความประสงค์ และการจัดพิมพ์สรุปย่อสาระสำคัญ จำนวน 17 ล้านฉบับ แจกจ่ายให้ทุกครัวเรือนที่มีสิทธิออกเสียงประชามติ โดยใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 200 ล้านบาท จากเดิม 800 ล้านบาท ซึ่งลดลงถึง 4 เท่าตัว โดยจะมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และแอพลิเคชั่นของ กกต. ด้วย โดยจะเริ่มเผยแพร่ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน เป็นต้นไป ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับกระบวนการประชามติทั้งหมดจะไม่เกิน 3,400 ล้านบาท



ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี



 

ข่าวทั้งหมด

X