*พล.อ.ชวลิต เรียกร้องคสช.สละอำนาจ/โฆษกมส.หนุนนายกฯให้พระแก้ปัญหากันเอง/คนไทยกินข้าวน้อยลง44%

25 กุมภาพันธ์ 2559, 12:16น.


ข่าวเที่ยงครึ่ง



+++พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ เปิดแถลงพร้อมทำจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ โดย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 10 คน และเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารมาเฝ้าสังเกตการณ์และบันทึกภาพเหมือนอย่างทุกครั้งที่ ในฐานะนายทหารรุ่นพี่ขอร้อง คสช.ไตร่ตรองปัญหาประเทศโดยเมื่อท่านได้ทำหน้าที่รักษาความสงบของบ้านเมืองแล้วก็ควรจะเสียสละอำนาจส่งต่อภาระหน้าที่ให้กับคณะกรรมการกลางที่จะมาจากภาคส่วนต่างๆ ร่วมกันบริหารจัดการให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ภายในปี 2559 เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หลังจากนั้นพล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์ถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธ์ จะผ่านประชามติ ว่า ไม่ทราบว่าจะผ่านหรือไม่ แต่ขอให้ร่างรัฐธรรมนูญเป็นฉบับที่ดีที่สุดไม่ถูกฉีกอีก ทั้งนี้ขอให้นายมีชัย ยืนอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง อย่าต้องถึงขั้นต้องรับคำสั่งโดยตรงจากคสช. ส่วนอยากฝากอะไรถึงนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อยากให้คนไทยมีงานทำ เอาของไปขายต่างประเทศ ทำเป็นรถเข็นใช้ชื่อ รถจันทร์โอชา ตามเมืองต่างๆที่บริโภคข้าวไทย ซึ่งจะทำให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้น โดยนำสินค้าโอทอปไปขายด้วย คนไทยจะได้ไม่ตกงาน พล.อ.ชวลิตยังแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ที่มีกลุ่มก่อการร้ายเข้ามามีอิทธิพลในอาเซียน ว่า ขณะนี้ในพื้นที่ภาคใต้มีองค์กรชื่อว่า แบล็กสวอน หรือ เหยี่ยวดำ เกิดขึ้น ทราบว่าเป็นของกลุ่มไอซิส ไม่รู้ว่ารัฐบาลทราบหรือยัง แต่อยากให้รัฐบาลดูแลการข่าวให้เข้มกว่านี้ เพราะว่าขณะนี้รูปแบบการขัดแย้งในภาคใต้มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องเปลี่ยนวิธีรับมือด้วย



+++พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) โฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ กล่าวว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พูดว่าเรื่องของพระให้พระจัดการกันเอง อาตมาเห็นด้วยว่านายกฯ พูดเข้าท่า ที่ให้คณะสงฆ์เป็นผู้จัดการกันเองภายในเรื่องลดความขัดแย้งเรื่องตั้งสมเด็จพระสังฆราช ทั้งนี้ มส.จะนำไปหารือในที่ประชุม มส.เร็วๆ นี้ ส่วนฝ่ายบ้านเมืองก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเหมือนกัน พระสงฆ์มีข้อจำกัดในการถือกฎหมาย 5 อย่าง ได้แก่ 1.พระธรรมวินัย 2.กฎหมายบ้านเมือง 3.พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 4.จารีตประเพณี และ 5.มหาสมณนิยม ซึ่งการที่นายกฯ ออกมาพูดเช่นนี้ ตรงกับคำที่พระราชาเคยตรัสว่า “ราชูนัง อนุวัตติตุง” คือให้พระสงฆ์อนุวัติตามพระราชา หรือหมายถึงเรื่องภายในของพระสงฆ์ให้พระสงฆ์จัดการกันเอง แต่กลัวว่าพวกที่มาร้องแรกแหกกระเชอ ข้างล่างเป็นคน ข้างบนเป็นพระ คือไม่เป็นพระทั้งองค์ ดังนั้น สังคมไม่ควรเอาพระเกเรมาเป็นแบบอย่าง



+++พาณิชย์ยอมรับส่งออกยังไม่กระเตื้อง  นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือนมกราคม 2559 ยังคงขยายตัวติดลบอย่างต่อเนื่องจากปี 2558 เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดคู่ค้าหลักของไทยที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว รวมทั้งหลายประเทศหันมาส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้กำลังซื้อของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันลดลง



+++หลังมีรายงานว่าคนไทยกินข้าวน้อยลง  น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากข้อมูลการวิจัยของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คนไทยบริโภคข้าวน้อยลง จากอัตราเฉลี่ย 190 กิโลกรัมต่อคนต่อปี เหลือ 106 กิโลกรัม หรือลดลง ร้อยละ 44  จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้คนไทยบริโภคข้าวมากขึ้น ให้เข้าใจถึงความสำคัญของการบริโภคข้าว ส่วน มาตรการจูงใจปลูกพืชเพื่อพักดินในการเพาะปลูก พื้นที่ 500,000 ไร่ คาดว่ามีเกษตรกรเข้าร่วม 25,000 ครัวเรือน วงเงิน 2,382 ล้านบาท ซึ่งมาตรการทั้งหมดกระทรวงเกษตรฯจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง



+++เฟซบุ๊ก เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมของโลก ได้เพิ่มปุ่มให้กดแสดงอารมณ์เพิ่มอีก 5 ฟีเจอร์ ประกอบด้วย รัก (love) ขำหรือหัวเราะ (haha) ประหลาดใจหรือทึ่ง (wow) เศร้า (sad) และโกรธ (angry) จากเดิมที่ทำได้แค่กดไลค์ โดยจะเริ่มใช้งานปุ่มดังกล่าวได้ตั้งแต่วันพุธตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ หลังจากได้มีการวิจัยทั่วโลกมากกว่า 1 ปีเพื่อดูข้อมูลต่างๆ รวมทั้งดูสติกเกอร์และสัญลักษณ์แทนอารมณ์หรือความรู้สึกที่เรียกกันว่า อิโมติคอน อันไหนบ้างที่คนชอบใช้กัน นอกเหนือจากทำการทดลองให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กในสเปนและไอร์แลนด์ได้ลองใช้กันมาตั้งแต่เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ส่วนกระแสเรียกร้องให้เพิ่มปุ่มไม่ชอบหรือ ดิสไลค์ ที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เคยให้เหตุผลแล้วว่าไม่ได้เพิ่มปุ่มดิสไลค์ เพราะไม่ต้องการเปลี่ยนเฟซบุ๊กให้เป็นเวทีที่คนจะโหวตเอาหรือไม่เอาสิ่งต่างๆ ที่มีคนมาโพสต์ไว้ ซึ่งไม่ใช่แนวทางชุมชนที่บริษัทต้องการสร้างขึ้น

ข่าวทั้งหมด

X