สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ผลการวิจัยที่พบว่า ผู้รอดชีวิตจากโรคอีโบล่า ส่วนใหญ่จะมีปัญหาสุขภาพในระยะยาว โดยในการติดตามอาการของผู้ป่วยที่ไลบีเรียจำนวน 82 คนพบว่า หลังจากที่หายป่วยและออกมาจากสถานพยาบาลได้ 6 เดือน ผู้ที่เพิ่งหายป่วยจะมีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง 2 ใน 3 จะมีสุขภาพอ่อนแอลง จำนวนครึ่งหนึ่งของทั้งหมดจะสูญเสียความทรงจำ และมีอาการซึมเศร้า บางคนพยายามฆ่าตัวตาย และบางคนเห็นภาพหลอน
ทั้งนี้ จากสถานการณ์อีโบลาแพร่ระบาดในแอฟริกาตะวันตก มีผู้ที่หายป่วยมากกว่า 17,000 คน จึงมีการนำเสนอรายงานฉบับนี้เข้าสู่ที่ประชุมประจำปีของสถาบันประสาทวิทยา เพื่อการวิจัยและดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ต่อเนื่อง ดร.ลอเรน โบเวน จากสถาบันประสาทวิทยาและหัวใจแห่งชาติเปิดเผยว่า เชื้ออีโบลาทำลายอวัยวะ และระบบประสาท ซึ่งส่วนหนึ่งสามารถรักษาได้ แต่หากเป็นระบบประสาทตา หรือสมอง ยังไม่มีหนทางรักษา ดังนั้นที่น่าเป็นกังวลก็คือผู้ที่หายป่วยจากอีโบลาที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มสาวที่เมื่อหายป่วยก็จะกลับไปโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือกลับไปทำงาน แต่เมื่อพวกเขาสูญเสียความทรงจำมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีผลต่อการใช้ชีวิต กลายเป็นความเครียดสะสม ซึ่งทางสถาบันสรุปว่า แม้จะไม่มีเชื้อโรค แต่บุคคลเหล่านี้ก็ยังคงเป็นผู้ป่วยอีโบลาอยู่
..F163..