*นายกฯตั้งเป้าปฎิรูปสหกรณ์ทั้งระบบใน 5 ปี ยกระดับเป็นธนาคารสหกรณ์*

การพัฒนาเศรษฐกิจและระบบสหกรณ์ไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในพิธีโอกาสครบรอบ 100 ปี สหกรณ์ไทย และมอบรางวัลสหกรณ์ดีเด่น ประจำปี 2559 ภายในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า ตั้งแต่ รัฐบาล และคสช. นี้เข้ามาก็ทำทุกอย่าง ใน 2ปี นี้รัฐบาลต้องทำให้เดินหน้า และอีก5ปี ต้องปฎิรูปสหกรณ์ทั้งระบบ ซึ่งวันนี้ รัฐบาล มีนโยบายเรื่องการส่งเสริมความเข้มแข็งของสหกรณ์อยู่แล้ว แต่ทุกคนจะต้องเข็มแข็งโดยเริ่มต้นด้วยที่ตนเอง  และพึ่งตนเองให้ได้ เพื่อวันข้างหน้าจะต้องทำให้ลูกหลาน ลำบากน้อยลง โดยจะนำไปใส่ไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20ปีเพื่อคนในอนาคต

ทั้งนี้ สหกรณ์ในปัจจุบันมี 7ประเภท อาทิ ด้านเกษตรกร ประมง ซึ่งมีกว่า 8,000กว่าแห่ง รัฐบาลนี้กำลังมีการจัดระเบียบ เป็นชั้นๆ ซึ่งต่อไปก็จะนำไปสู่แผนการพัฒนาให้มีความเข็มแข็ง ดีขึ้น ซึ่งวันนี้ รัฐบาลนี้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2560คุณภาพของสหกรณ์จะต้องดีขึ้น และต้องสร้างความเข็มแข็งเป็นภูมิภาค รวมถึงต้องร่วมมือกันพัฒนาทำให้ผลผลิตทางการเกษตรดีขึ้น  และการปฎิรูประบบเศรษฐกิจต้องเดินไป ทั้งภาคประชาชน ภาครัฐบาล ภาคเอกชน จะต้องทำงานร่วมกันเชื่อมต่อกันและเดินต่อไปให้ได้ทุกอย่าง และต้องทำให้สหกรณ์สามารถสร้างเครือข่าย รวมกลุ่ม และเชื่อมโยงกันให้ได้ ก็จะสามารถแข่งขันกับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ได้ แต่ต้องการให้คนไทยทุกคนตระหนักว่าระบบสหกรณ์สามารถทำเรื่องที่ดีกว่าได้ และถ้าเกษตรกรเข็มแข็ง ในอนาคตเกษตรกรก็จะเป็นเจ้าของกิจการเอง

ส่วนปัญหาน้ำน้อยปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า รัฐก็มีการขุดบ่อกักเก็บน้ำ โดยมีการจัดงบประมาณไปเพื่อให้มีน้ำใช้ทุกหมู่บ้าน แต่ถึงอย่างไร แต่ละชุมชนก็ร่วมกันพัฒนาชุมชนให้เป็นระบบ ซึ่งวันนี้ระบบการเกษตร ทั้งการเช่านา ค่าปุ๋ย ค่าการผลิต ต้องรื้อทั้งหมด และจะต้องเริ่มดำเนินการในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี ในปี2560 ด้วย

ส่วนการบริการของระบบสหกรณ์ ต้องมีการคัดบุคลากรที่เข้ามาให้มีความซื่อสัตย์ เข็มแข็ง ส่วนราชการต้องดูการบริหาร กฎหมาย ให้เข็มแข็งเพื่อทำให้องค์กรสหกรณ์มีความเข็งแข็ง แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาระบบสหกรณ์ว่าขณะนี้มีสหกรณ์ทั่วประเทศกว่า 8,000 แห่งซึ่งแบ่งเป็น 4ระดับคือ ระดับที่1 คือดีที่สุดมีจำนวน 2,000กว่าแห่ง ระดับ2 มี 4,000กว่าแห่ง ระดับ3 มีกว่า 700 แห่ง และระดับที่4คือระดับที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกซึ่งมีกว่า1,000แห่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ไปดำเนินการพัฒนาให้ภายปี2560 จะต้องพัฒนาสหกรณ์ให้ดีขึ้นโดยไม่ให้มีระดับที่4

นอกจากนี้ เรื่องการพัฒนาระบบสหกรณ์นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการยกระดับเป็นธนาคารสหกรณ์ ซึ่งขณะนี้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาว่าจะดำเนินการได้อย่างไร เช่น ให้ผู้เชี่ยวชาญมาบริหารและตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำงานแต่นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีตั้งสำนักงานธนาคารสหกรณ์และมีการกระจายสาขาไปยังภูมิภาคต่างๆเพื่อเป็นการสร้างความเข็มแข็งให้ระบบสหกรณ์ในอนาคต

ผู้สื่อข่าว: วิรวินท์ ศรีโหมด