*รมว.พณ.ขยายการลงทุนกับรัสเซีย/DSI ยังไม่กำหนดเวลาเชิญสมเด็จช่วงให้ข้อมูล/นิชา ธุวธรรม นั่งรองเลขาธิการนายกฯ/

23 กุมภาพันธ์ 2559, 19:04น.


+++การเดินทางเยือนรัสเซียและเบลารุส ร่วมคณะของรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  เยือนสหพันธรัฐรัสเซีย และเบลารุส ระหว่างวันที่ 23-26 ก.พ.นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เป็นการเตรียมการเดินทางเยือนรัสเซียของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ค. เพื่อร่วมประชุมซัมมิต รัสเซีย-อาเซียน ในวาระครบรอบ 20 ปี ความเป็นหุ้นส่วนรัสเซีย-อาเซียน การเดินทางครั้งนี้ ได้นำคณะนักธุรกิจเอกชนประมาณ 60 คน ร่วมเดินทางมาเจรจาขยายการค้าการลงทุนระหว่างไทย และรัสเซียด้วย ทั้งสองประเทศ มีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ซึ่งรัสเซียเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า โดยส่งออกสินค้ามาไทยประมาณ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่มพลังงาน น้ำมัน เหล็ก และอุตสาหกรรมหนัก ขณะที่ ไทยส่งออกสินค้ากลุ่มยานยนต์ ยางพารา อาหาร อัญมณี และเคมีภัณฑ์มายังรัสเซีย  ซึ่งในครั้งนี้ตั้งเป้าขยายการค้าการลงทุน และลดอุปสรรคต่าง ๆ  ยอมรับว่า ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายเป็นตัวเลขมูลค่าการค้าในปีนี้ เพราะเศรษฐกิจรัสเซียยังเปราะบาง จากปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ



+++รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกสินค้าปศุสัตว์มายังรัสเซีย ยังมีอุปสรรค ที่ฝ่ายรัสเซีย อนุญาตเฉพาะผู้ส่งออกของไทยที่ขึ้นทะเบียนไว้ และต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่ประเทศไทยก่อน ซึ่งใช้ระยะเวลาอนุมัติค่อนข้างนานครั้งนี้จึงจะเจรจาขอลดขั้นตอนอุปสรรคดังกล่าวนอกจากนี้ ยังจะถือโอกาสหารือความเป็นไปได้ในการเจรจาการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทย-EEU หรือสหภาพความร่วมมือทางเศรษฐกิจยูเรเชีย ประกอบด้วยสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย เบลารุส คาร์ซักสถาน อาร์เมเนีย และคีร์กิซสถาน ซึ่งมีประชากร รวมกันประมาณ 180 ล้านคน รัสเซียต้องการดึงไทยเข้าร่วมเจรจา จึงจะหารือเบื้องต้นถึงความเป็นไปได้ดังกล่าว  เชื่อว่า หากเปิด FTA ได้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายที่จะขยายการค้าการลงทุนในอนาคต



+++ตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก นำโดยหุ้นใหญ่ชี้นำดัชนี เช่น กลุ่มพลังงาน ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น หลังสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงในปี 2559-2560 ขณะที่ กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ ทำให้บรรยากาศการลงทุนอยู่ในระดับสดใส ส่งผลให้ดัชนีปิดตลาดที่1,325.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.60จุด มูลค่าการซื้อขาย49,838.20 ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ลดลง 59.00 จุด 16,052.05 จุด ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 49.31 จุด 19,414.78 จุด



+++สถานการณ์การบิน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ได้รายงานให้คณะรัฐมนตรี( ครม.) รับทราบการแก้ไขปัญหาของสายการบินนกแอร์ นอกจากการเรียกผู้บริหารสายการบินนกแอร์มาเตือนเรื่องการให้บริการที่ต้องไม่มีการหยุดบินกระทบผู้โดยสารแล้ว สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ตรวจสอบชั่วโมงบินนักบินนกแอร์ทุกคน คาดว่าจะรายงานผลการตรวจสอบให้กระทรวงคมนาคมรับทราบสัปดาห์นี้ ส่วนประเด็นที่สายการบินนกแอร์จะยกเลิกเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 20 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่ ล่าสุดนกแอร์ไม่ได้ยกเลิกเที่ยวบินมาที่ กพท.





+++กระทรวงคมนาคมได้แจ้งให้ ครม.ทราบว่าการเรียก 14 สายการบินมาหารือ เน้นย้ำให้ทุกแห่งจัดทำแผนเผชิญเหตุให้ชัดเจนและรายงานให้ กพท.ทราบ แผนต้องครอบคลุมการบริหารความเสี่ยงขององค์กร เช่น กรณีนักบินหยุดบิน ปัญหาภัยธรรมชาติ ปัญหาระบบไอทีและคอมพิวเตอร์ พร้อมทั้งเร่งรัดแก้ปัญหานักบินขาดแคลน ให้สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) เร่งจัดทำแผนผลิตบุคลากรด้านการบินทั้งนักบิน ช่างซ่อมอากาศยานและลูกเรือให้เพียงพอ



+++ขณะที่นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน และรักษา ผอ.กพท. กล่าวถึงการยกเลิกเที่ยวบินของนกแอร์ ว่า 20 เที่ยวบินที่ยกเลิกวันนี้มีการแจ้งล่วงหน้ามากว่า 3 วันถือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ส่วนการแจ้งล่วงหน้าวันต่อวันหลังจากนี้หากนกแอร์ไม่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ 3 ข้อ คือ ไม่คืนเงินผู้โดยสาร การเปลี่ยนเที่ยวบิน หรือทำการเลื่อนเที่ยวบินตามที่ผู้โดยสารต้องการ ก็จะมีหลักเกณฑ์ชัดเจนว่าจะเสียค่าปรับให้ผู้โดยสารรายละ 1,200 บาท หากประชาชนไม่ได้รับการปฏิบัติคุ้มครองสิทธิ์ดังกล่าวสามารถแจ้งได้ที่ กพท.หรือสายด่วนศูนย์ปลอดภัยคมนาคมหมายเลข 1356



+++ส่วนประเด็นฐานะการเงินของ 4 สายการบินที่มีปัญหา เนื่องจากมีภาระหนี้สินที่เจ้าหนี้ติดตามทวง  กพท.ได้ติดตามฐานะการเงินเพื่อไม่ให้เกิดการลดค่าใช้จ่ายที่กระทบกับมาตรฐานความปลอดภัย โดยยืนยันทั้ง 4 สายการบินอยู่ในสถานะเฝ้าระวัง ยังไม่ยกเลิกใบอนุญาต



+++ความคืบหน้าการแก้ปัญหาความปลอดภัยด้านการบินตามกรอบขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ยืนยันว่า ขณะนี้การดำเนินงานคืบหน้าทั้งการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องที่มีนัยยะสำคัญต่อความปลอดภัย (เอสเอสซี) 33 ข้อ รวมทั้งการฝึกอบรมผู้ตรวจสอบทั้งมาตรฐานความปลอดภัยและการออกใบอนุญาตสายการบินตามกรอบเวลา กพท.ยืนยันว่าการแก้ไกขปัญหาจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนไอซีเอโอตรวจสอบซ้ำ เบื้องต้นวางกรอบเวลาว่าการแก้ไขจะเสร็จและเชิญไอซีเอโอตรวจสอบอีกครั้งสิ้นปี 2559



+++ต่อเนื่องเรื่องการบิน วันนี้ สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ของญี่ปุ่น แถลงว่า เจ้าหน้าที่พบควันลอยขึ้นจากหนึ่งในเครื่องยนต์ของเครื่องบินโบอิง 737 ไม่กี่นาทีก่อนที่นักบินจะนำเครื่องทะยานขึ้นจากสนามบินนิวชิโตเซะ บนเกาะฮอกไกโดทางภาคเหนือของประเทศ มุ่งหน้าเมืองฟุกุโอะกะทางภาคใต้ของประเทศเมื่อเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ของสายการบิน ต้องอพยพลูกเรือทั้ง 6 คนและผู้โดยสาร 159 คนลงจากเครื่องบิน ผู้โดยสารสตรีคนหนึ่งบาดเจ็บเล็กน้อยระหว่างการอพยพ ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่าเห็นควันลอยขึ้นจากเครื่องยนต์ด้านขวาของเครื่องบิน ขณะแล่นออกจากอาคารรับผู้โดยสารเพื่อไปยังรันเวย์ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน



+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้ง นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ครม.มีมติแต่งตั้ง นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้ง น.ส.รัชนีกร สรสิริ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แทน นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ลาออกจากตำแหน่ง



+++สถานการณ์ภัยแล้ง มีรายงานจากสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กรุงเทพมหานคร(กทม.) ระบุว่า  ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2558 เห็นชอบแนวทางประหยัดน้ำในหน่วยงานภาครัฐ โดยให้หน่วยงานของภาครัฐ ลดการใช้น้ำอย่างน้อยร้อยละ 10 นายแพทย์พีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัดกทม. สั่งการให้หน่วยงานสังกัดกทม.ปฏิบัติตาม แต่สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงมาก ปลัดกทม.จึงมีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 12 กพ. ขอความร่วมมือหน่วยงานสังกัด กทม.ลดการใช้น้ำลงไปอีกอย่างน้อยร้อยละ 20 พร้อมรายงานผลทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง 



+++สำหรับมาตรการและแนวทางลดปริมาณการใช้น้ำ ประกอบด้วย มาตรการประหยัดน้ำของทุกหน่วยงาน โดยจัดตั้งคณะทำงานการประหยัดน้ำของหน่วยงานขึ้น พร้อมปรับแผนปฏิบัติการประหยัดน้ำ โดยตั้งเป้าหมายให้สามารถประหยัดน้ำได้อย่างน้อยร้อยละ 20 และรายงานผลการดำเนินการทุกๆวันที่ 5 ของเดือน



+++หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รับเรื่องคดีรถหรูของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นคดีพิเศษ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ กล่าวถึง เรื่องที่ทนายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ แจ้งว่าจะเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน ไม่ทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่าได้ติดต่อพนักงานสอบสวนเข้ามาหรือไม่ เพราะเมื่อคดีโอนไปที่สำนักภาษีอากรจะต้องไปตรวจสอบและเชิญพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบเช่นกัน ส่วนสัปดาห์นี้จะมีการเชิญ สมเด็จช่วง เข้ามาให้ปากคำหรือไม่ เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนสำนักงานภาษีอากรซึ่งรับเรื่องต้องพิจารณาสำนวนคดีก่อนพร้อมวางแผนจะดำเนินการอย่างไร คงจะกำหนดระยะเวลาไม่ได้ ต้องให้เวลาพิจารณาสำนวน ส่วนกรณีวัดปากน้ำภาษีเจริญ ไม่คืนรถให้ดีเอสไอหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีความคิดเห็นจากคณะพนักงานสอบสวนจนกว่าจะได้เห็นพยานหลักฐานในชั้นสอบสวน



+++ความคืบหน้ากรณีการดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ อดีตที่ปรึกษา สบ 10 (อดีตโฆษก ตร.) ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการติดตั้งเสาส่งสัญญาณวิทยุบนอาคารตึกใบหยก เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร โดยมิชอบ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะพนักงานสอบสวนสรุปความเห็นแล้ว ส่งให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พิจารณาและลงความเห็น ก่อนส่งเรื่องให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด เนื่องจาก พล.ต.อ.ประวุฒิ เป็นข้าราชการระดับสูง เมื่อ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว ก็จะเชิญผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา สำหรับขั้นตอนชั้นพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการพิจารณาของผบ.ตร.



 

ข่าวทั้งหมด

X