*ครม.อนุมัติงบกลางเกือบ3,000ล้าน พัฒนาอาชีพแก้ภัยแล้ง*

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติงบบกลางเพื่อบรรเทาภัยแล้ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เสนอขอรับเงินช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้ง ปี 2558/2559 ในมาตรการพัฒนาอาชีพตามความต้องการของชุมชน  ในระยะที่ 2 เรื่องโครงการกิจเกษตรกรรมด้านการเกษตรอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การปลูกพืชใช้น้ำน้อย รวมไปถึงงานหัตถกรรม และการจ้างงาน  รวม 4,937  โครงการ รวมวงเงิน 2,967 ล้านบาท เพราะเป็นโครงการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถดำเนินการตามความต้องการชุมชนและสร้างความเข้มแข็งระดับฐานราก

ด้านกระทรวงยุติธรรม รายงานผลการจัดระเบียบสังคม ตามมติ ครม. เกี่ยวกับมาตรการการป้องกันการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ การควบคุมสถานบริการและสถานประกอบการในลักษณะสถานบริการ ว่า  กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดรูปแบบเขตพื้นที่สำหรับสถานศึกษา อุดมศึกษา อาชีวศึกษา มัธยมศึกษาและบริเวณต่อเนื่องหรือถัดออกไป ที่กำหนดว่าไม่สามารถเปิดสถานบริการหรือคล้ายสถานบริการได้ ซึ่งได้กำหนดรูปเขตพื้นที่ อุดมศึกษา อาชีวศึกษา มัธยมศึกษาเสร็จแล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงหมดแล้ว แต่ประถมและอนุบาลยังไม่แล้วเสร็จจึงขอขยายเวลากำหนดรูปแบบอีก 180 วัน  ขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยก็ได้มีการพิจารณาเพื่อปรับพื้นที่เขตโซนนิ่งที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จอีก 10วัน จึงขอขยายเวลาอีก 180 วัน

ขณะเดียวกัน  ครม.ยังเห็นชอบรับทราบกรอบมาตรฐานการเตรียมแผนงานความพร้อมของหน่วยงานกระบวนการยุติธรรม เพื่อรองรับจัดตั้งศาลชั้นต้น และแผนกคดีต่างๆของศาลยุติธรรม (กพยช.)  เพราะปัญหาเกิดขึ้นเมื่อศาลจะจัดตั้งศาลชั้นต้น ทำให้ส่งผลกระทบไปยังหน่วยงานอื่นๆในกระทรวงยุติธรรม เช่น กรมราชทัณฑ์ กรมควบคุมประพฤติ จึงกำหนดอัตรากรอบกำลังมาตรฐาน หากจัดตั้งศาล 1  แห่ง กรมต่างๆต้องมีอัตรากำลังที่เพิ่มขึ้น 105 คน สถานที่ 8-10 ไร่ งบประมาณบุคลากร ครุภัณฑ์ ต่างๆ ประมาณ 51 ล้านบาท งบก่อสร้าง 70 ล้านบาท ค่าเช่า 10 ล้านบาท ก่อสร้างเรือนจำ 120 ล้านบาท เพื่อเป็นมาตรฐาน ซึ่งศาลที่จะเปิดในปี 2559 ได้แก่ ศาลเชียงคำ และศาลชุมแพ ซึ่งมีปัญหาเรื่องกำลัง กรอบมาตรฐานทั้งคนทั้งเงินและพื้นที่ ซึ่งจะเป็นแนวทางทุกหน่วยงานต้องหารือกันว่ามีความพร้อมหรือไม่อย่างไร

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี