สหรัฐอเมริกาครองส่วนแบ่งค้าอาวุธมากที่สุดในโลก ขณะที่อินเดียนำเข้ามากที่สุด

สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (ซิปรี) รายงานว่า การเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการค้าขายและการบริจาค ระหว่างปี 2554-2558 มีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อนหน้านั้น โดยสหรัฐและรัสเซียเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ ขณะที่ผู้นำเข้ารายใหญ่ คือ อินเดีย, ซาอุดีอาระเบีย, จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยตั้งข้อสังเกตสงครามเยเมนซึ่งกลุ่มแนวร่วมที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนสนับสนุนรัฐบาลเยเมนต่อสู้กับกบฏฮูติ พบการจัดส่งอาวุธก้าวหน้าจากสหรัฐและยุโรปเข้าไปใช้งานด้วย

ทั้งนี้ นายโอเดอ เฟลอรองต์ ผู้อำนวยการโครงการการใช้จ่ายทางทหารและอาวุธของซิปรี กล่าวว่า ในขณะที่ความตึงเครียดและความขัดแย้งระดับภูมิภาคเพิ่มขึ้น สหรัฐยังคงเป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดของโลกด้วยส่วนต่างที่มีนัยสำคัญ โดยขายหรือบริจาคอาวุธหลักแก่ประเทศและรัฐอย่างน้อย 96 แห่งในช่วงเวลา 5 ปีมานี้ และมียอดส่งออกมหาศาล ซึ่งรวมถึงเครื่องบินรบเอฟ-35 กว่า 600 ลำ ส่วนอาวุธหลักที่ส่งออกมากที่สุด หรือร้อยละ 41 จะส่งไปที่ซาอุดีอาระเบียและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง  ส่วนรัสเซียที่เป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่อันดับสอง มียอดการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 มาอยู่ที่ร้อยละ 25 แม้ว่าปริมาณการส่งออกจะลดลงในช่วงปี 2557-2558 เนื่องจากถูกลงโทษทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ปริมาณอาวุธที่เข้าสู่ประเทศในทวีปแอฟริกา, เอเชียและโอเชียเนีย และตะวันออกกลาง ต่างเพิ่มขึ้น แต่อาวุธที่เข้าสู่ทวีปยุโรปและอเมริกาลดลง ที่น่าสนใจคือจีนแซงหน้าฝรั่งเศสและเยอรมนี กลายเป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ด้วยยอดส่งออกอาวุธเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 88 โดยตลาดของจีนคือประเทศในทวีปเอเชียด้วยกัน

 *-*