การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมเช่นเคย มีวาระที่จะถูกเสนอนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ประกอบด้วย การวางมาตรการชวยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งให้มีความเข็มแข็ง วันนี้กระทรวงการคลังจะเสนอขอความเห็นชอบให้ ครม. พิจารณาโครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง และโครงการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลรวม 3 มาตรการรวมเป็นเงินกว่า 99,000 ล้านบาท และขออนุมัติเงินชดเชยจากการดำเนินโครงการวงเงินประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพื่อให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตวงเงิน 15,000 ล้านบาท โดยจะมุ่งเน้นไป 22 จังหวัดที่มีการประกาศภัยแล้ง โดยจะให้เกษตรกรปลูกพืชอื่นทดแทนการปลูกข้าวเพื่อลดการใช้น้ำ ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ระยะเวลา 12 เดือน และมีการขอรับชดเชยอัตราดอกเบี้ยจากรัฐบาลร้อยละ 3 หรือคิดเป็นเงินประมาณ 500 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีมาตรการเพิ่มเติมในการแก้ปัญหาภัยแล้งที่ได้เคย ดำเนินการไปก่อนหน้านี้
รวมถึงจะมีการขอขยายวงเงินสินเชื่อเสริมสภาพคล่องให้เกษตรกรเพิ่มเติมวงเงิน 12,000 ล้านบาท โดยจะไม่คิดอัตราดอกเบี้ย นาน 6 เดือน หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ในช่วง 6 เดือนที่เหลือเพื่อสนับสนุนวงเงินให้เกษตรกรใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งจะต้องขอรับเงินชดเชยจากรัฐบาล
และมีโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) รายเล็ก หรือระดับไมโคร และโครงการ 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอี ที่ตั้งวงเงินไว้ 72,000 ล้านบาท โดยจะปล่อยกู้รายละไม่เกิน 20 ล้านบาท และคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ในช่วงระยะเวลา 1-7 ปี ส่วนปีที่ 8-10 คิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ หรือเอ็มแอลอาร์ตามประเภทของลูกค้า ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มปล่อยกู้ให้เกษตรกรที่มีความพร้อมแล้วในบาง พื้นที่ ซึ่งคาดว่าใช้เวลา 1-2 ปีในการดำเนินโครงการ
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. จะรายงานให้ ครม. รับทราบมาตรการเพิ่มเติมในการแก้ปัญหาภัยแล้งที่ได้เคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้
ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท ภายใต้โครงการบูรณาการมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ในโครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง เพื่อให้เกษตรกรนำไปพัฒนาเรื่องการเกษตร อาทิ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ การถนอมอาหาร ให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละชุมชน รวมทั้งการขุดลอกคูคลอง การกักเก็บน้ำ
ส่วนคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) จะขอความเห็นชอบเพื่อขยายระยะเวลาการผ่อนผันให้แรงงาน ต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ เมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่อยู่ระหว่างรอการพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 มีนาคมนี้ ที่มีจำนวนกว่า 1 ล้านคน ให้สามารถพำนักและทำงานในประเทศไทยชั่วคราวได้ไปก่อนหลังครบกำหนด แต่ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ (ครม.)
ขณะที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะรายงาน เรื่อง การจัดทำ การกำหนด และการขับเคลื่อนกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ และร่างพระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ....ซึ่งถ้าวันนี้ ครม.เห็นชอบ ก็จะมีการส่งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อผลักดันให้ออกเป็นกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมน่าจะมีการรายงานการปัญหา รวมถึงแนวทางการแก้ไข ปัญหาของสายการบินว่ามีความคืบหน้าอย่างไร โดยในวันนี้สายการบินนกแอร์จะยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 20 เที่ยวบินซึ่งมีการแจ้งให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้า เพื่อให้ใช้สิทธิ์ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง การคุ้มครองผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินของไทยในเส้นทางประจำภายในประเทศ พ.ศ.2553
รวมถึงกระทรวงคมนาคม อาจจะมีการเสนอชื่อการแต่งตั้ง ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวชนกรุงเทพ (ขสมก.) คนใหม่ด้วย
ขณะที่ประเด็นร้อนที่คงต้องติดตาม ความเห็นของ พล.อ.ประยุทธ์ เกี่ยวกับการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า ไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะทำให้อำนาจของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งอ่อนแอลง ทั้งเสนอให้เจรจากัน นอกจากนี้ยังมีแนวทางลดความขัดแย้งในวงการสงฆ์ด้วย
อย่างไรก็ตามการประชุม ครม. วันนี้จะไม่มีรองนายกรัฐมนตรี 3 คนเข้าร่วมประชุมเนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปรัสเซีย และเบาราลุส คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เดินทางไปปฏิบัติราชการ ที่กัมพูชา
ขณะที่การประชุม ครม. วันนี้จะเริ่มประชุมเวลา 09:00น. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล