หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับการร้องเรียนว่าล้งชาวจีน หรือ โรงคัดแยกบรรจุผลไม้จากจีนที่เข้ามารับซื้อผลไม้ในไทย นำสินค้าตกเกรดที่ซื้อจากเกษตรกรมาลักลอบขายในไทยโดยไม่ขออนุญาต น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในการออกตรวจสอบล้งจีน ที่เข้ามาซื้อผลไม้ไทย และส่งออกไปจีนว่าดำเนินการถูกต้องตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 หรือไม่ จากปัจจุบัน มีล้งจีนที่ซื้อและส่งออกลำไยถึง 145 ราย, ทุเรียน 70-80 ราย และมังคุด 70-80 ราย เพราะตามกฎหมายนี้ ล้งชาวจีนสามารถเข้ามาซื้อ รวบรวม คัดแยก และบรรจุผลไม้ในไทยแล้วส่งออกได้เท่านั้น แต่นำผลไม้ที่ซื้อแล้วมาเวียนขายในไทยไม่ได้ และถ้าหากจะขายในไทยต้องขออนุญาตคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวก่อน ไม่เช่นนั้น จะมีความผิด โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 1แสน ถึง1 ล้านบาท หรือจำคุก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย และจีน ได้ทำข้อตกลงร่วมกันว่า การซื้อผลไม้ ทั้งลำไย ทุเรียน และมังคุดจากไทย ล้งชาวจีนที่จะเข้ามารับซื้อและแพ็กสินค้าเพื่อส่งออกไปจีน ต้องลงทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรก่อน และต้องได้มาตรฐานจีเอ็มพี ในการแพ็คสินค้าเพื่อส่งออก ถ้าไม่ได้ลงทะเบียน และไม่ได้มาตรฐานจีเอ็มพี จะทำธุรกิจไม่ได้ ที่สำคัญจะต้องซื้อและส่งออกได้เท่านั้น โดยขายในไทยไม่ได้
ขณะที่สวนผลไม้หากจะส่งออกไปจีน ต้องลงทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรเช่นกัน เพื่อควบคุมคุณภาพผลผลิตให้เป็นไปตามคุณภาพมาตรฐาน ตามที่จีนกำหนด และก่อนจะส่งออก ต้องมีใบรับรองสุขอนามัย และใบอนุญาตการส่งออก ปัญหาขณะนี้คือ เมื่อมีการควบคุมคุณภาพมาตรฐานเข้มงวดเช่นนี้ อาจทำให้ผลไม้ที่ล้งจีนซื้อแล้ว บางล็อตอาจไม่ได้มาตรฐาน ส่งออกไม่ได้ แล้วผลไม้ตกเกรดพวกนี้ก็แอบมาขายต่อในไทย ซึ่งจะเข้าข่ายผิดตามพ.ร.บ.ต่างด้าวถ้าไม่ขออนุญาตก่อน ต้องไปตรวจสอบว่ามีมากน้อยอย่างไร
CR:Facebook กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์