เมืองไทยฯ:บางกอกแอร์เวย์สระงับเที่ยวบินเหตุเตือนกลองระเบิด/ไทยขาดนักบินหนัก*

22 กุมภาพันธ์ 2559, 08:28น.


วันนี้ ยังต้องติดตามผลการสอบสวนผู้โดยสาร 4 ราย ที่อ้างว่าพนักงานต้อนรับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เข้าใจผิด เรื่องพูดเล่นเกี่ยวกับกลองระเบิด จนเป็นเหตุให้ต้องระงับเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ภูเก็ต



นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.54 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ว่า ผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางมาด้วยกันทั้งหมด 4 คนมีการสนทนาที่ทำให้นักบินจำเป็นต้องพิจารณาขอใช้แผนฉุกเฉิน กรณีการขู่วางระเบิดอากาศยาน บนอากาศยานเที่ยวบิน PG 924 เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เวลา 12.30 น. พร้อมด้วยผู้โดยสาร 156 คนและลูกเรือ 8 คน



เหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่ผู้โดยสารกำลังเก็บสัมภาระติดตัวบนอากาศยาน  กัปตันจึงตัดสินใจระงับเที่ยวบินเป็นการชั่วคราวและนำเครื่องเข้าจอดที่หลุมจอด เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ และมีการควบคุมตัวนายวิชาฤทธิ์ นาเมืองรักษ์ อายุ 43 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ พร้อมเพื่อนอีก 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งนายวิชาฤทธิ์ เล่าว่าได้รับการติดต่อให้ไปตั้งศาลพระภูมิชัยมงคลที่ จ.ภูเก็ต โดยมีสัมภาระที่ถือติดตัวไปด้วยขณะขึ้นเครื่อง ประกอบด้วยสังข์เป่า 2 องค์ สังข์รดน้ำ 1 องค์ แป้งเจิมหน้าผาก แผ่นทอง และสีผึ้งใส่ไว้ในกระเป๋าอะลูมิเนียม 4 เหลี่ยม ส่วนกลองมันเฑาะ (กลองพราหมณ์) ถือไปต่างหาก โดยมีนายศักดิ์ดา แตงไทย อายุ 50 ปี เป็นคนถือสัมภาระทั้งหมด และนำขึ้นไปไว้บนช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ เพราะเกรงว่าจะเกิดการเสียหาย เนื่องจากกลองมีสองหน้า อีกหน้าหนึ่งนั้นชำรุดอยู่ จึงเอ่ยขึ้นว่า "ระวังสิจะระเบิด" เมื่อแอร์โฮสเตสที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดจึงกล่าวว่า "ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดเล่น" จากนั้นก็เดินไปบอกกัปตัน และประกาศว่า "เครื่องบินเกิดขัดข้อง" จะนำเข้าตรวจสอบ



ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพิจารณาว่า เป็นเหตุที่เข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 หรือไม่ ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้นำผู้โดยสารขึ้นเครื่องเวลาประมาณ 18.00 น. โดยทำการบินด้วยเที่ยวบินเดิมและเดินทางไปยังท่าอากาศยานภูเก็ตแล้ว



ขณะที่สถานการณ์ภายในของสายการบินนกแอร์ ซึ่งมีการนัดหยุดงานและต้องยกเลิกเที่ยวบินเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และจะมีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินอีก 20 เที่ยว ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นการย้ำปัญหาภายในของสายการบิน โดยเฉพาะปัญหาขาดแคลนนักบิน จนทำให้สายการบินจำเป็นต้องปรับเที่ยวบินในแต่ละวันให้สอดคล้องกับจำนวนนักบินอยู่ตลอดเวลา และอาจส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้า



ทั้งนี้สายการบินไทยสมายล์ ในฐานะสายการบินพันธมิตรของนกแอร์ เข้าไปช่วยทำการบินในรูปแบบเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลท์ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ นอกจากนี้ยังมีการบินไทยและไทยไลอ้อนแอร์ ซึ่งเข้าไปช่วยทำการบินด้วยการยึดตารางสายการบินของตนเองเป็นหลักก่อนว่ามีตารางว่างหรือไม่ หากตารางว่างก็จะเข้าไปช่วยบินตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นการประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน



นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่าสายการบินนกแอร์ได้ยกเลิกเที่ยวบิน 20 เที่ยวในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ตามขั้นตอนตามกฎหมายครบถ้วน โดยได้แจ้งผู้โดยสารให้ทราบล่วงหน้าและให้ผู้โดยสารเลือกใช้สิทธิตามประกาศกระทรวงคมนาคมเรื่องการคุ้มครองผู้โดยสารในการคืนตั๋ว เปลี่ยนเที่ยวบินหรือจัดหาสายการบินอื่นให้เดินทางแทน นอกจากนี้ ยังตรวจสอบชั่วโมงบินของนักบินว่าเกินข้อบังคับหรือไม่ และจะสรุปผลตรวจสอบเสนอรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมพิจารณาสัปดาห์นี้ หากพบการกระทำผิดจะมีทั้งโทษปรับไปจนถึงโทษสูงสุดเพิกถอนใบอนุญาตทั้งนักบินและสายการบิน



โดยปกติแล้วนักบินจะทำการบินได้ย้อนหลัง 30 วันไม่เกิน 100 ชั่วโมง หากเกินชั่วโมงบินที่กำหนดจะต้องหยุดบินชั่วคราว จึงมีความเป็นไปได้ที่สัปดาห์นี้สายการบินนกแอร์อาจมีการประกาศยกเลิกเที่ยวบินอีก เนื่องจากนักบินที่ทำการบินอยู่ส่วนใหญ่ทำการบินเกินชั่วโมงที่กำหนด ปัจจุบันสายการบินนกแอร์มีนักบินอยู่ประมาณ 160 คน มีเครื่องบิน 20 ลำ แต่หากจะให้นักบินมีเพียงพอกับจำนวนเครื่องจะต้องมีนักบินประมาณ 200 คน



นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ไทยประสบปัญหาขาดแคลนนักบินมานาน 2-3 ปีแล้ว เพราะอุตสาหกรรมการบินเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะสายการบินโลว์คอสต์ รวมทั้งยังมีการใช้เครื่องบินรุ่นเดียวกันค่อนข้างมาก ทำให้นักบินที่เชี่ยวชาญถูกซื้อตัวไป แนวทางแก้ไขตอนนี้ได้เร่งให้ กพท.ไปหารือร่วมกับโรงเรียนเอกชน เพื่อเช็กหลักสูตรการสอนว่าเป็นไปตามมาตรฐาน และพัฒนานักบินป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินอีกแรง



อย่างไรก็ตาม น.ท.ปิยะ ตรีกาลนนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์ หรือบีเอซี เปิดเผยว่า หากไทยไม่ติดปัญหาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ปักธงแดง ปัญหาขาดแคลนนักบินจะหนักกว่านี้ เนื่องจากนักบินจะเลือกไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งมีเงินเดือนสูงกว่าเท่าตัว โดยก่อนไอซีเอโอปักธงแดง นักบินไหลออกไปกว่า 100 คน แต่หลังปักธงแดงนักบินไทยไหลออกไปไม่ได้ เพราะสายการบินตะวันออกกลาง เช่น เอทิฮัดและเอมิเรตส์ ขอชะลอการรับนักบินไทยชั่วคราว จนกว่าไอซีเอโอจะปลดธงแดงให้ไทย



ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะแถลงสรุปตัวเลขธุรกิจประกันภัยปี 2558 และแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคปี 2559 เพื่อให้ทราบถึงนโยบายและทิศทางการดำเนินงานพร้อมสร้างความเชื่อมั่นต่อธุรกิจประกันภัย และแนวทางคุ้มครองผู้บริโภค



วันที่ 25 กุมภาพันธ์ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขส่งออกเดือนมกราคม 2559 



*-*

ข่าวทั้งหมด

X