นายชาร์ลี วินเตอร์ นักวิจัยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐจอร์เจีย สหรัฐฯ ระบุในผลการวิจัยว่า มีเด็กชาย 89 คน อายุระหว่าง 8-18 ปี เสียชีวิตระหว่างการสู้รบให้กับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)เมื่อปีที่แล้วเพิ่มเกือบ 3 เท่าจากตัวเลขประเมินเมื่อปี 2557 คณะนักวิจัย ใช้วิธีการวิจัยโดยการติดตามโฆษณาชวนเชื่อและข้อมูลอื่นๆของกลุ่มไอเอสตลอด 13 เดือน รายงานดังกล่าวถูกพิมพ์เผยแพร่โดยศูนย์ปราบปรามก่อการร้าย โรงเรียนนายร้อยเวสต์พ้อยต์ กองทัพสหรัฐฯบ่งชี้ว่าระหว่างเดือนมกราคม 2558 ถึงเดือนมกราคม 2559 ร้อยละ 39 ของเด็กชายเสียชีวิตจากระเบิดรถยนต์ฆ่าตัวตายและร้อยละ 33 เสียชีวิตจากการสู้รบ
แม้ว่ากลุ่มไอเอสไม่ได้บอกชื่อจริงและข้อมูลส่วนตัวของเด็กที่เสียชีวิต แต่คณะนักวิจัยสามารถจะประเมินเรื่องอายุและสัญชาติของผู้เสียชีวิต ระบุว่าในจำนวนที่เสียชีวิต ร้อยละ 60 อายุระหว่าง 12-16 ปี และร้อยละ 6 อายุระหว่าง 8-12 ปี นอกจากนี้ร้อยละ 18 เสียชีวิตหลังตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู แต่นักรบเด็กกลุ่มนั้นยังคงเดินหน้ากราดยิงใส่ศัตรูไปจนกว่าพวกเขาจะถูกยิงเสียชีวิตในจำนวนผู้เสียชีวิต หนึ่งในมือระเบิดฆ่าตัวตายที่อายุน้อยที่สุดคือ อายุระหว่าง 8-12 ปี เขาเสียชีวิตในจังหวัดอเลปโปทางภาคเหนือของซีเรียเมื่อเดือนก่อน กลุ่มไอเอส ได้เผยแพร่ภาพของเด็กคนดังกล่าวขณะลาบิดาเพื่อไปสนามรบ
รายงานนี้ยังแสดงให้เห็นการข้ามแดนของกลุ่มนักรบเด็กจำนวนมากระหว่างอิรักและซีเรีย ซึ่งกลุ่มไอเอสมีที่มั่นอยู่ในขณะนี้ ในจำนวนนี้กว่าครึ่งหนึ่งเสียชีวิตในอิรัก แต่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรีย บ่งชี้ว่ากลุ่มไอเอส สามารถจะฝึกอบรมนักรบเด็กในซีเรีย ก่อนจะส่งพวกเขาไปสู้รบในอิรัก นอกจากนี้เด็กที่เสียชีวิตมาจากเยเมน ซาอุดิอาระเบีย ตูนีเซียและลิเบีย และอีกบางส่วนมาจากอังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลียและไนจีเรีย
ทีมต่างประเทศ
CR:AP,BBC