การเสนอความเห็นร่างรัฐธรรมนูญของผู้อบรมในหลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย หรือ นธป. 4 ศ.ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มีจุดเด่นหลายประการ เช่น บทบัญญัติในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ได้แก่ การกำหนดให้เป็นหน้าที่ของประชาชนช่วยกันปราบปรามการทุจริต การกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของ ส.ส. และ ส.ว. รวมทั้งการให้องค์กรต่างๆ ร่วมกันกำหนดมาตรฐานจริยธรรม นอกจากนี้ ยังมีบทบัญญัติที่ช่วยแก้ปัญหาสูญญากาศทางการเมือง กำหนดให้รองประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภาได้ในกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ และประธานวุฒิสภาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมทั้งการกำหนดให้การไม่ลงคะแนนเลือกตั้ง หรือโหวตโน มีผลทำให้มีการเลือกตั้งใหม่ และผู้สมัครที่ได้คะแนนเสียงน้อยกว่าเสียงโหวตโน ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีก เป็นต้น
ส่วนในประเด็นเรื่องสิทธิ เสรีภาพ ศ.ดร. บรรเจิด แสดงความเป็นห่วง มาตรา 25 ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่อาจถูกจำกัดสิทธิ และกรณีที่ประชาชนเสียสิทธิ และไม่สามารถฟ้องร้องได้ต้องขอให้รัฐดำเนินการให้ ซึ่งเมื่อรัฐไม่ดำเนินการ จึงจะไปสามารถฟ้องร้องได้
นอกจากนี้ เห็นว่า ควรมีบัตรเลือกตั้งสองใบ ให้ประชาชนเลือกได้ได้ทั้งพรรค และคน การมีบัตรใบเดียวถือเป็นการรอนสิทธิของประชาชน การเลือกส.ส. ควรใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีสิทธิเลือกผู้สมัครได้คนเดียว ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความเสมอภาคกันทั่วประเทศ ส่วนเรื่องการให้พรรคการเมืองเสนอชื่อผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 3 คน มองว่า ไม่อาจเป็นจริงได้สำหรับพรรคการเมืองใหญ่ซึ่งเสนอชื่อคนเดียวเป็นหลัก และเป็นการเปิดโอกาสให้พรรคนอมินี เสนอชื่อคนนอกที่ไม่ใช่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ด้านดร. มนตรี กนกวารี นธป. 4 กล่าวว่าในประเด็นเรื่องศาล มีข้อเสนอแนะให้เพิ่มศาลรัฐธรรมนูญเป็นส่วนที่ 2 ในหมวดศาลเพื่อความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาและตุลาการ รวมทั้งมีข้อเสนอแนะให้ปรับอัตราส่วนของที่มาของตุลาการรวมทั้งมีกลไกเพื่อป้องกันการมีส่วนได้เสีย ของคณะกรรมการสรรหากับผู้ที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะในประเด็นอื่นอีกโดยเน้นให้ศาลสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยอิสระ ขณะที่มีข้อเสนอแนะให้กำหนดอำนาจหน้าที่ของศาลปกครองไว้ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ส่วนการบัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสามารถวินิจฉัยไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้นำเรื่องนี้ไปไว้ในบททั่วไปของรัฐธรรมนูญ และเปิดโอกาสให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยได้ดังที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557
สำหรับในประเด็นเรื่ององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ นายมนตรี กล่าวว่า มีข้อเสนอแนะให้เพิ่มเติมบทบัญญัติในมาตรา 211เพื่อคุ้มครองผู้ปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรอิสระ ที่ทำโดยสุจริตตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและมาตรฐานจริยธรรมขององค์กรอิสระ ส่วนกรณีผู้ไต่สวนอิสระให้กลับไปใช้หลักการเดิมที่เคยระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550
ด้านนางฉัตรสุดา จันทร์ดียิ่ง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีข้อเสนอให้ควรปรับเพิ่มเติมบทบัญญัติที่กำหนดให้มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับองค์กรตามรัฐธรรมนูญองค์กรอื่น และควรเพิ่มเติม การเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติอีกด้วย
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข