การหาทางออกแก้ปัญหาในวงการสงฆ์ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า คงจะไม่มีการดีเบตระหว่างกัน แต่จะเป็นการพูดคุยในหลายรูปแบบกับฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น พระผู้ใหญ่ ผู้ที่ดูแลการปกครอง ผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการสงฆ์และองค์กรชาวพุทธ ที่มีทั้งคณะสงฆ์และฆราวาส ซึ่งตัวเองและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อาจจะไปพบเองหรือมอบหมายให้สำนักพระพุทธศาสนา หรือให้คณะสงฆ์คุยกันเองก็ได้ เพื่อหารือถึงสภาพปัญหา แนวทางวิธีการและข้อเสนอแนะในการแก้ไข เพื่อให้คณะสงฆ์เข้าใจรับรู้ภาพรวมทั้งหมด ไม่เพียงเฉพาะประเด็นความขัดแย้ง รวมถึงประเด็นการปฏิรูปในอนาคตด้วย ส่วนกรอบเวลาในหารือยังไม่สามารถระบุเวลาชัดเจนได้ แต่เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับบางส่วนไปแล้ว
นายสุวพันธุ์ กล่าวถึง การเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชว่า นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตัวเองรับผิดชอบเรื่องนี้ จะปรึกษากับนายวิษณุ และพยายามเดินหน้าต่อไปให้ได้ พร้อมขอให้แยกแยะเรื่องคดีรถหรูที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้แถลงไปแล้วเมื่อวานนี้ว่าผิดกฎหมาย ให้แยกออกจากเรื่ององค์รวมของศาสนา แม้ว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งในเรื่องข้อกฏหมายจะต้องดำเนินการต่อไป หากมีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมก็จะทำ พร้อมปฏิเสธที่จะกล่าวถึงหลักเกณฑ์การเสนอชื่อสมเด็จพระสังฆราชที่ยังมีการวิจารณ์ เนื่องจากขอดูกระบวนการที่เกี่ยวข้องก่อน นายสุวพันธุ์ ยืนยันไม่กดดันเพราะทำตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ โดยขอให้ลองยืนนิ่งๆดูบทบาทของทั้งประชาชน คณะสงฆ์ ดูบทบาทที่ดีที่สุดที่ส่งผลให้พระพุทธศาสนาเจริญได้ควรจะเป็นอย่างไร เพราะมีข้อมูลหลากหลาย ควรมีสติ ไม่มีอคติ ส่วนตัวมองว่า หากใช้วิธีการสร้างสรรค์ก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง