*ครม.เสนอกรธ.บังคับใช้รธน.2ช่วงสกัดความขัดแย้ง/พาณิชย์ รับมีความพยายามเชื่อมโยงข้อมูลผิดๆ บิดเบือนคดีจำนำข้าว/นายกฯกดปุ่มกองทุนหมู่บ้าน*

19 กุมภาพันธ์ 2559, 08:18น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++วันนี้ต้องติดตาม หลัง คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งความเห็นขอปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) รวม 16 ประเด็น โดยเฉพาะข้อสุดท้าย กำหนดให้มีรัฐธรรมนูญ 2 ช่วง พร้อมกับคิดกลไกป้องกันเหตุการณ์วิกฤตหลังเลือกตั้ง ขณะที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ จะเปิดแถลงถึงข้อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญประเด็นอะไรบ้าง ที่โรงแรมอโนมา ย่านราชประสงค์



+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าของการพิจารณาปรับปรุงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ เป็นรายมาตราว่า จากการพิจารณาข้อเสนอแนะและการแสดงความเห็นของภาคส่วนต่างๆ ส่วนใหญ่มีเนื้อหาที่ตรงกัน แต่ยอมรับว่ามีบางประเด็นที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่เห็นด้วยกับกลไกทางการเมือง ที่ กรธ.กำหนดไว้ใน 2 ส่วน คือ ที่มาของ ส.ว. ซึ่งถูกเสนอให้ใช้รูปแบบสรรหา, ที่มาของ ส.ส.ที่ต้องการให้ใช้เขตใหญ่ รวมถึงใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำให้รู้สึกมึนและมองว่าไม่สามารถแก้ไขให้ได้ตามใจผู้ที่อยากได้ต้องการทั้งหมด เพราะกลไกทางการเมืองของ กรธ.นั้น ได้พูดกับประชาชนแล้ว และประชาชนยอมรับ ดังนั้น เมื่อจะกลับมาปรับเปลี่ยนอีกอาจทำไม่ได้ทั้งหมด



ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่อาจส่งผลต่อการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นสิ่งที่ไม่น่ากังวล เท่ากับการบิดเบือนเนื้อหาที่ไม่มีอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญ แล้วทำให้ผู้ที่ไปออกเสียงประชามติ ลง คะแนนบนฐานของความเข้าใจผิด ดังนั้น กรธ.ได้ หารือเบื้องต้นว่า เมื่อทำร่างรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ในวันที่ 20 มีนาคม จะใช้เวลาทบทวนทั้งฉบับ ประมาณ 2-3 วัน และส่งไปตามขั้นตอน จากนั้น กรธ.จะเข้าสู่กระบวนการชี้แจงเนื้อหาต่อประชาชน



สำหรับเนื้อหาที่ กรธ.ปรับปรุงนั้น ได้นำเนื้อหาของมาตรา 5 ในรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มาปรับปรุงให้มีความเหมาะสมและชัดเจน ส่วนเหตุผลที่ย้ายจากหมวดศาลรัฐธรรมนูญ มายังหมวดบททั่วไป จะไม่มีความต่างกันเท่าใด แต่ของเดิมนั้นเขียนไว้สั้นและไม่สนใจว่าใครจะส่งเรื่องใดๆ ไปยังศาลบ้าง และเมื่อถึงศาลแล้ว เมื่อไม่มีบทบัญญัติใช้บังคับได้วางหลักให้ศาลวินิจฉัย ส่วนเนื้อหาใหม่นั้นจะระบุชัดเจนว่า องค์กรใดจะสามารถส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เช่น สภา, คณะรัฐมนตรี, องค์กรอิสระ ดังนั้น ต้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญฐานะผู้ดูแลบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ



+++คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้แจกเอกสาร ข้อเสนอและความเห็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ครม. เช่น  ที่เสนอให้คดีทุจริตของนักการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ต้องพิจารณาในศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ไม่ควรจัดให้มีศาลเดียว ควรแก้ให้การอุทธรณ์เป็นสิทธิในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อเป็นระบบสองศาล  



+++ครม.ยังเสนอความเห็นต่อว่า ควรกำหนดบทเฉพาะกาลกำหนดการเลือกตั้งให้สอดคล้องกับโรดแม็พของ คสช.คือภายในเดือนกรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป  และเพื่อไม่ให้เข้าสู่ภาวะรัฐที่ล้มเหลวดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในพฤษภาคม 2557 ย้อนกลับมาเกิดขึ้นอีก ภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อาทิ ปัญหาการเลือกตั้ง การจัดตั้งรัฐบาล ปัญหาความมั่นคง เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่และคุณธรรมของคนในชาติ ประเทศตกอยู่วังวนแห่งการสู้รบ และปัญหาอื่นๆ จะส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดิน การสร้างความสามัคคีปรองดอง และการปฏิรูปประเทศสะดุดล้มเหลว ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อและความเป็นความตายของประเทศ ครม.จึงเห็นว่า ต้องบัญญัติเนื้อหาและการบังคับใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเฉพาะกิจ หรือเฉพาะกาลในระยะแรกซึ่งอาจไม่ยาวนาน โดยใช้หลักเกณฑ์อย่างหนึ่ง เสมือนข้อยกเว้นตามความจำเป็นแห่งสถานการณ์ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองแต่อยู่บนพื้นฐานการปกครองของระบอบประชาธิปไตย ที่มีการเลือกตั้ง ส.ส.ในระดับหนึ่ง อย่างมีดุลยภาพในช่วงเปลี่ยนผ่าน และช่วงที่ 2 จะใช้รัฐธรรมนูญ



+++กระแสต่างชาติกดดันไทยในเรื่องประชาธิปไตยตามสื่อโซเชียล มีเดีย พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "ใครกดดัน เขากดดันผมหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นผมไม่กล้ากลับมา แล้วก็ไม่กล้าไปด้วย คนเขามีมารยาทเพียงพอ และอีกอย่างเขาเห็นว่าอาเซียนเป็นภูมิภาคที่สำคัญในโลกใบนี้ เราเป็นส่วนหนึ่งของอาเซียน ฉะนั้นเขาแยกแยะกันออก ผมก็ไม่เห็น เขารังเกียจรังงอนอะไรผม แต่อาจจะมีบางคนต้อง เสียใจ เพราะคิดว่าอาจจะไม่ได้จับมือ เขาก็จับผมแน่น เขามีมารยาท เข้าใจหรือ การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกหลังทีมโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอให้มีการจัดระเบียบสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยให้สามารถตั้งคำถามต่อนายกรัฐมนตรีได้เพียง 4 คำถามเท่านั้น ทั้งนี้ มีการจัดพื้นที่สำหรับสื่อมวลชน โดยนำสายพานมากั้นพื้นที่ ระหว่างโพเดี้ยมนายกฯ กับผู้สื่อข่าว มีการจัดเก้าอี้และไมโครโฟน เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้แนะนำตัวและต้นสังกัด ก่อนตั้งคำถามนายกฯ ตามมาตรการจัดระเบียบ โดย พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้มาทำความเข้าใจและสอบถามประเด็นคำถามต่อผู้สื่อข่าวก่อนสัมภาษณ์นายกฯ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้อธิบายถึงสาเหตุว่า ทำไมต้อง 4 คำถามในแต่ละครั้งของการให้สัมภาษณ์ว่า "เลขสี่มันดีมั้ง เจ๊ก หนอ ซา สี่ เลขสี่ดี ถ้าโหงวไม่ค่อยหรอก เพราะมันเกิน ถ้าวันหน้ามันคุยกันรู้เรื่อง แล้วมันดีขึ้น ช่วยชี้แจงทำความเข้าใจ มันก็อาจจะเป็นสี่ ห้า หก ก็ได้ วันนี้สตาร์ทสี่ก่อน เลขดี โอเคนะ ขอบคุณ สวัสดี"



+++น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึง ผลการหารือร่วมกับ หน่วยงานที่เก็บรักษาข้าวในสต๊อกของรัฐบาล ทั้งองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กรณีที่กระทรวงการคลังท้วงติงการปิดบัญชีข้าวของปี 2558 มีข้าวขาดไป 3.9 แสนตัน ว่า จากการตรวจสอบได้ข้อสรุปตรงกันข้าวไม่ได้หาย แต่เป็นขั้นตอนของการลงบัญชีที่ลงบัญชีสุทธิ แต่ยังไม่ได้หักข้าวที่ต้องส่งมอบตามสัญญา และน้ำหนักกระสอบออกเท่านั้น สำหรับการนำประเด็นข้าวไม่หาย และได้มีการนำไปเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์ของ คนบางกลุ่มและบางฝ่ายนั้น ขอชี้แจงว่า เป็นคนละส่วนกับการปิดบัญชีข้าวของปี 2558 เพราะการปิดบัญชีข้าวของปี 2557 ได้ตรวจสอบพบว่ามีข้าวหายจริง และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง



+++น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งในคดีทุจริตขายข้าวใน รูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) นั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งเรื่องไปให้กระทรวงการคลังตรวจสอบตัวเลขความเสียหายแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องและคำนวณตัวเลขความเสียหาย หากเห็นด้วยหรือเห็นเป็น อย่างอื่น ก็จะแจ้งกลับมายังกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าน่าจะภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า ส่วนคดีทางแพ่ง ที่ต้องฟ้องร้องเอกชนที่เกี่ยวข้องจำนวน 15 ราย ภายในวันที่ 15 ก.พ.2559 นั้น ขณะนี้ถือว่าได้ข้อยุติแล้วว่าคดีไม่หมดอายุความ เพราะได้ฟ้องร้องเป็นคดีอาญาไปแล้ว



+++รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้มีความพยายามของกลุ่มบุคคลและผู้ที่เชื่อมโยงกับบุคคลที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์และพวกรวม 22 ราย กรณีทุจริตขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ได้นำกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าข้าวไม่หาย มาเหมารวมว่ากระทรวงพาณิชย์ช่วยการันตี แต่จริงๆ แล้ว เป็นข้าวในส่วนของการปิดบัญชีปี 2558 ที่รัฐบาลชุดนี้ได้เข้ามาดูแล ซึ่งไม่ได้หาย



+++วันนี้ เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการ "โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ" ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการทำโครงการช่วยเหลือประชาชนในระดับฐานรากโดยรัฐจะจัดสรรวงเงินผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ แห่งละไม่เกิน 500,000 บาท คิดเป็นรวมวงเงิน 35,000 ล้านบาท เพื่อให้แต่ละกองทุนนำเงินไปลงทุนทำโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่นเช่น โรงสีข้าว ลานตาก ยุ้งฉาง หรือโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรขนาดเล็กที่เป็นประโยชน์และช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรวม



+++ด้านนายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวว่า ในการเดินทางไปเปิดงานของนายกฯ ครั้งนี้ ไม่ใช่การกดปุ่มเพื่อโอนเงินลงไปยังหมู่บ้านทันที แต่จะเป็นการส่งสัญญาณถึงแนวทางช่วยเหลือด้านการส่งเสริมอาชีพของภาครัฐที่ยั่งยืนผ่านกลไกของกองทุนหมู่บ้าน ส่วนการโอนเงินนั้น กองทุนแต่ละแห่งต้องเสนอโครงการมาให้คณะอนุกรรมการพิจารณาก่อนหากพบว่ามีความเหมาะสมจะได้โอนเงินลงไปทันทีเบื้องต้นมองว่าหลังจากนายกฯ เดินทางเปิดโครงการแล้วภายในสัปดาห์ต่อไปจะเริ่มการโอนเงินได้ นอกจากนั้น ยังเปิดตัว อาสาประชารัฐ ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคประชาสังคม ที่จะออกมาช่วยกันตรวจสอบการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประธานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านจะเป็นผู้ไปชี้แจงความเข้าใจกับผู้แทนกองทุนอีกครั้งหนึ่งด้วย  โดยการโอนเงินลงไปผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ 4 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยกองทุนหมู่บ้านแต่ละแห่งต้องเปิดบัญชีใหม่ชื่อว่า บัญชีประชารัฐ เพื่อแยกการบริหารจัดการออกมาจากบัญชีเดิมที่กองทุนฯ เคยเปิดกับธนาคารไว้ซึ่งจะทำให้กองทุนฯ รู้จักการจัดการบริหารงบประมาณส่วนนี้ได้อย่างถูกต้องมากขึ้น ที่สำคัญยังสามารถรองรับกรณีมีโครงการใหม่ ๆ ในลักษณะใกล้เคียงกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย



+++นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะประชุมหารือร่วมกับกรม การขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ผู้ประกอบการท่องเที่ยว สมาคมรถเช่า เพื่อนำปัญหาที่เกิดจากนักท่องเที่ยวจีนขับรถข้ามด่านเชียงของมาท่องเที่ยว จ.เชียงราย เชียงใหม่ และปัญหาที่เกิดขึ้นกับด่านชายแดนอื่นๆ เพื่อวางหลักเกณฑ์ระเบียบด้านการขับขี่ รวมถึงแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถบริเวณด่านชายแดน ให้สอดคล้องกับศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นในทิศทางเดียวกัน รวมถึง จะเร่งหาข้อมูลด้านกฎหมายว่าการใช้รถบ้านของนักท่องเที่ยวจีนสามารถทำได้หรือไม่ เพราะหลายฝ่ายกังวลว่านักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะเดินทางมาใช้ทรัพยากรประเทศไทย แต่ใช้จ่ายน้อย เบื้องต้นพบว่ากลุ่มนี้ยังเดินทางมาจำนวนไม่มากนัก และไม่ได้สร้างปัญหาให้กับภาพรวมการท่องเที่ยว ในอนาคตจะวางแผนจำกัดจำนวนรถยนต์เข้าออก หรือแนวคิดการจอดรถส่วนตัวไว้ที่ด่านและเปลี่ยนเป็นการเช่ารถในฝั่งไทยหรือไม่นั้น ต้อง หารือหลักเกณฑ์ด้านกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ และศักยภาพความพร้อมของผู้ประกอบการไทยในการวางนโยบายส่งเสริม



+++09.30 น. ศาลนัดฟังอุทธรณ์ คดีอัยการ ฟ้อง พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ ฐานให้เงินแก่ตุลาการรัฐธรรมนูญ เพื่อช่วยเหลือคดียุบพรรคไทยรักไทย ปี49 ที่ ห้อง913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกจำเลย ได้ประกัน หลังศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา



+++10.00 น. นายเผชิญ ศรีคะโชติ บิดาของนายณัฐพงศ์ ศรีคะโชติ วัยรุ่น 19 ปี ที่ถูก 2 นายตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมพวก อุ้มหายนานกว่า 2 เดือน เข้ายื่นหนังสือต่อตำรวจกองปราบปราม เพื่อร้องขอให้ตำรวจกองปราบปรามเข้ามารับทำคดีดังกล่าวแทนพนักงานสอบสวนเมืองฉะเชิงเทรา เนื่องจากคดีไม่มีความคืบหน้า และไม่ยอมรับหลักฐานทางคดีไปประกอบในสำนวนจึงเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ กองบังคับการปราบปราม ถ.พหลโยธิน



+++นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี จำกัด กล่าวว่า ยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง หลังบริษัทได้รับหนังสือแจ้งเตือนการค้างชำระค่าใบอนุญาตจากสำนักงาน คณะกรรมการกิจการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นจำนวน 1,748.81 ล้านบาท โดยนัดไต่สวนในวันที่ 23 ก.พ.2559 นี้ มั่นใจว่า บ.ไทยทีวีไม่ผิด กสทช.ที่ทำผิด โดยยังคงยึดในหลักการเดิม เนื่องจาก กสทช.ไม่ปฏิบัติตามแผนแม่บทฯ และคำมั่นที่ให้ไว้ก่อนและหลังการประมูลทีวีดิจิตอล ยืนยันไม่ยอมแพ้ในการทำธุรกิจทีวีแน่นอน ยังคงต้องการทำธุรกิจด้านนี้ต่อไป โดยหาพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้พูดคุยกับต่างประเทศไว้บ้างแล้ว อีกทั้งบริษัทยังคงมีธุรกิจในด้านอื่นที่พร้อมขยายต่อไป ทั้งนิตยสาร ทีวีดาวเทียม และธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจท่องเที่ยว ที่กำลังไปได้ดี แม้จะมีผลกระทบบ้างเมื่อมีข่าวลือว่าจะล้มละลาย



+++ศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบสุดท้าย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน ในวันนี้ (19 ก.พ.) เป็นเกมรอบรองชนะเลิศ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย พบ "เจ้าภาพ" อุซเบกิสถาน แข่งขันเวลา 18.00 น. ที่อุซเบกิสถาน สเตเดี้ยม โดยทั้ง 2 ทีมตีตั๋วไปเล่นฟุตซอลโลก 2016 รอบสุดท้าย ที่ประเทศโคลัมเบีย กลางปีนี้แน่นอนแล้ว ร่วมกับ อิหร่าน และเวียดนาม สถิติระหว่าง ไทย กับ อุซเบกิสถาน ปรากฏว่าเจอกัน 8 ครั้ง ไทยชนะ 6 นัด แพ้ 2 นัด 

ข่าวทั้งหมด

X