*สรุปข่าว 19.35น*
+++เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งข้อมูลการนำเข้ารถยนต์ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง มาให้กรมศุลกากรพิจารณา นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า จากนั้นคณะกรรมการเรียกเก็บอากรตาม ม.6 แห่ง พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากร จะพิจารณาดูรายละเอียดข้อมูลรถยนต์คันดังกล่าวว่าครบถ้วนอย่างไรบ้าง จากนั้นจึงพิจารณาการหลีกเลี่ยงภาษีจากการสำแดงนำเข้าแบบชิ้นส่วน จากนั้นจึงสรุปการประเมินจัดเก็บภาษี เพื่อเสนออธิบดีกรมศุลกากร โดยจะเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจากบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส ผู้ส่งนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ ทั้งเครื่องยนต์และตัวถังรถยนต์จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีบริษัทผู้บริการผู้ส่ง (Shipper) คือ ILS, INC. และนำเข้าโครงตัวถังรถยนต์ มาโดย หจก.ซี.ที. ออโตพาร์ท เป็นผู้นำสินค้าเข้า ส่วนเครื่องยนต์มาโดยเรือ NYK ARGUS เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2553 เบื้องต้นทราบว่าเมื่อนำเข้าชิ้นส่วนแล้วนำมาประกอบเป็นรถยนต์ทั้งคันภายหลังกรมศุลกากรคาดว่าเป็นการรื้อรถทั้งคันเพื่อต้องการหลีกเลี่ยงภาษี จึงต้องประเมินจัดเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 300 ของราคารถยนต์ ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าวเป็นการดำเนินคดีทางแพ่ง เพื่อเรียกคืนภาษี หากข้อมูลครบถ้วนจะสรุปได้อย่างรวดเร็ว
+++ด้านสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ได้เปรยกับลูกกศิษย์คนสนิทคนหนึ่ง ระบุว่า สมเด็จช่วงไม่ได้กล่าวย้ำอะไรเป็นกรณีพิเศษ บอกเพียงว่า "ให้ปล่อยไปตามกระบวนการ ไม่ยึดติด และให้ยึดตามคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะเรื่องของ หลักธรรม ที่จะทำให้เกิดความสุข ทั้งทางกายและทางใจ ให้พูด ทำ คิด ชอบ ประกอบด้วยเหตุและผล อันเป็นหลักธรรมพื้นฐานของชาวพุทธ
+++พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) เชิญตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาพูดคุยที่ มทบ.11 ว่า เป็นการขอความร่วมมือและพูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับการให้ความเห็นต่อประเด็นต่าง ๆ ผ่านสื่อในช่วงนี้ เพราะบางเรื่องเหมือนจะเป็นการไปขยายความในทำนองเพิ่มระดับความขัดแย้ง หรือบางครั้งทำให้มองได้ว่าไปชี้นำ อีกทั้งในบางความเห็นก็พาดพิงทั้งบุคคลและองค์กรอื่น ๆ การเชิญดังกล่าวเป็นการพูดคุยกันธรรมดา มีเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นผู้ร่วมพูดคุย ซึ่งนายจตุพรก็ได้กลับบ้านไปเหมือนปกติที่เคยเชิญมา
ปัญหาข้าวหาย ล่าสุด นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อตก. รวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอให้กับคณะกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าวพิจารณา ตามที่พบว่าตัวเลขปิดบัญชีไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกันทางบัญชี ซึ่งจะถือเป็นการตรวจทานตัวเลขทางบัญชีของนักบัญชีเพื่อความถูกต้อง ซึ่งเกี่ยวกับปริมาณของข้าวซึ่งจะมีการคำนวณรวมเอาปริมาณข้าวที่มีภาระส่งมอบ และยังรวมน้ำหนักกระสอบเข้าไปด้วย ทำให้ตัวเลขสรุปปริมาณข้าวไม่ตรงกันกับบัญชีของ อคส. โดยอคส.ได้ชี้แจงถึงปัญหาของตัวเลขปิดบัญชีแล้ว และได้มีการชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการปิดบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่าข้าวในการปิดบัญชี 30 กันยายน 2558 ไม่ได้หาย และไม่เกี่ยวข้องกับการปิดบัญชีในปี 57 ซึ่งมีข้าวหายจริง และก็ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว สำหรับข้อมูลเรื่องของการเรียกร้องความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอให้กับกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่ากระทรวงการคลังน่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จได้ภายใน 1-2 เดือน ก่อนที่จะดำเนินเรื่องของคดีต่อไป
+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้ (18 ก.พ.) ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 พ.ศ. …. ได้ผ่านการเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทั้ง 3 วาระ โดยมีการตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ไม่เกิน 56,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญกับการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ เช่น การจัดทำระบบ National e–Payment การพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ 15,000 ล้านบาท และเป็นรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ 8,338 ล้านบาท
+++ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น คดีที่นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ , นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว เสรีธิวัฒน์ , นายรังสิมันต์ โรม , นายอานนท์ นําภา กับพวกรวม 15 คน ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มพลเมืองโต้กลับและกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับพวกรวม 5 คน เป็น จำเลยในความผิดฐานเป็นกบฏ ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หลังคณะ คสช. บัญญัติมาตรา 47และ 48 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 เพื่อนิรโทษกรรมให้กับการทำรัฐประหาร และการกระทำในรูปแบบต่างๆ นั้น เป็นการผิดระบบประชาธิปไตย และละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีไม่มีมูลที่ศาลจะรับไว้พิจารณา โดยไม่รับคำฟ้องของโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้องนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายกฟ้อง
+++นายกรัฐมนตรีอาเหม็ด ดาวูโตกลู ระบุว่าคนร้ายที่โจมตีกรุงอังการาเมื่อค่ำวานนี้คือ นายซาเลห์ นาจาร์ พลเมืองซีเรีย เพิ่มเติมว่าคนร้ายรายนี้เชื่อมโยงกับกลุ่มวายพีจี กลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดทางภาคเหนือของซีเรีย นอกจากนี้ตำรวจตุรกีได้จับกุมชาย 9 คน ที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคนร้าย ด้านกองทัพตุรกีแถลงว่า กองทัพฯได้ทำการโจมตีทางอากาศยังที่มั่นนักรบชาวเคิร์ดทางภาคเหนือของอิรักเมื่อวานนี้ ระบุว่านักรบชาวเคิร์ดในซีเรียและอิรักมีประสานงานกันอย่างใกล้ชิดกับพรรคพีเคเค ของชาวเคิร์ด ซึ่งเป็นพรรคฯที่ถูกขึ้นบัญชีดำในตุรกีว่าเป็นพรรคฯที่เคลี่อนไหวอย่างผิดกฏหมาย หลังคนร้ายขับรถยนต์บรรทุกระเบิดพุ่งชนรถทหารขณะจอดรอสัญญาณไฟเขียวที่บริเวณสี่แยกแห่งหนึ่งในกรุงอังการาเมื่อค่ำวานนี้ ทำให้เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้รถทหารและรถอื่นๆของเอกชนที่จอดอยู่ในบริเวณใกล้เคียง มีคนเสียชีวิต 28 ศพและมีคนบาดเจ็บ 61 คน
+++เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของพรรคแซนูรี พรรครัฐบาลเกาหลีใต้ว่า สำนักข่าวกรองแห่งชาติ(เอ็นไอเอส)ของเกาหลีใต้ได้สรุปความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือให้สมาชิกพรรคฯทราบในวันนี้ว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้สั่งการเมื่อเร็วๆนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเพื่อโจมตีระบบไซเบอร์และการโจมตีอื่นๆต่อเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันหลายฝ่ายรวมทั้งจีนและรัสเซียแสดงความกังวลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือหลังการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ และปล่อยจรวดเมื่อไม่นานมานี้ เกาหลีเหนืออาจจะมุ่งโจมตีกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านเกาหลีเหนือ ผู้แปรพักตร์ เจ้าหน้าที่รัฐบาลในเกาหลีใต้ ระบบรถไฟใต้ดิน ห้างสรรพสินค้าและสถานที่สาธารณะอื่นๆในเกาหลีใต้ ส่วนรูปแบบอื่นๆอาจจะมีการแอบวางยาพิษนักเคลื่อนไหวและผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือ หรืออาจจะล่อลวงพวกเขาไปยังประเทศจีนแล้วลักพาตัวไป
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันและความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ปิดพุ่งขึ้น 360.44 จุด แตะที่ 16,196.80 จุด
แรงหนุนหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นสู่ระดับ 30.66 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากนายบิจาน ซานกาเนห์ รมว.น้ำมันอิหร่านประกาศว่า อิหร่านจะสนับสนุนความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับกลุ่มอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,294.59 จุด เพิ่มขึ้น 6.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,993.39 ล้านบาท หลังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แต่ก็มาเจอแรงขายจากหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ทำให้ดัชนีฯแกว่งแคบ แต่ก็สามารถยืนในแดนบวกได้เป็นส่วนใหญ่
+++ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 438.51 จุด ที่ 19,363.08 จุด