*นายกฯ เผยหากสงฆ์ยังมีปัญหาตั้งสมเด็จพระสังฆราชไม่ได้ ยืนยันไม่เปิดเวทีดีเบตร่างรธน.*

ปัญหาความขัดแย้งของคณะสงฆ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวหลังการเดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า ปัญหานี้เกิดมานานแล้ว แต่ปล่อยให้ล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ จะมาตัดสินเอาแพ้เอาชนะ ก็เอากฎหมายมาว่ากัน ซึ่งการเอากฎหมายมาต่อสู้ไม่ผิด แต่ไม่ใช่จะเอามาตีกันทุกเรื่อง มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันหาทางออก ส่วนตัวจึงไม่ขอตอบตอนนี้ เป็นการพูดคุยหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่การดีเบต

ส่วนจะถือโอกาสนี้ปฏิรูปพระสงฆ์เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะปฏิรูปอย่างไร สิ่งสำคัญคือทุกคนไม่ว่าใครก็ตามต้องปฏิรูปใจตัวเองก่อน เพราะประเทศไทยมีทั้งไทยพุทธ และอิสลาม ซึ่งตัวเองก็เป็นไทยพุทธ แต่ต้องดูแลศาสนาอื่นด้วยให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ส่วนจะแก้กฎหมายไม่ให้พระสงฆ์ถือครองทรัพย์สินด้วยหรือไม่ ส่วนตัวเคยอธิบายแล้วว่าให้แก้อะไร อย่างไร แต่สื่อมวลชนก็ไม่ช่วยชี้แจงทำความเข้าใจ หากออกกฎหมายอย่างเดียวแล้วจะฟังกันหรือไม่

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ถ้ายังมีปัญหาอยู่ ก็ไม่สามารถแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชได้ เพราะคงไม่เอาความขัดแย้งขึ้นมาให้เป็นเรื่องเป็นราว รวมถึงรู้ดีถึงกฎหมายและหน้าที่ของตัวเอง แล้วคนอื่นรู้จักหน้าที่ตัวเองหรือไม่ ว่าทำอย่างไรจะลดความขัดแย้ง อีกฝ่ายก็อ้างการกระทำความผิดเยอะแยะไปหมด แล้วจะจบกันหรือยัง จะจบยังไงขอให้ไปถามเขามา

ส่วนเรื่องการเปิดเวทีดีเบตร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า จะไม่มีการเปิดเวทีให้แสดงความคิดเห็น(ดีเบต)เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ระหว่างกลุ่มการเมืองและคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพราะขณะนี้มีการรับฟังความคิดเห็นอยู่แล้ว ซึ่งรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ เพราะเป็นอนาคตของประเทศ แต่ทุกคนยอมรับกันบ้างหรือไม่ ถ้าทุกคนจะเดินหน้าประเทศต้องร่วมมือกันอยู่ภายใต้กฎหมาย หากเป็นเช่นนั้นไม่ต้องเขียนอะไรใหม่เลยก็อยู่ได้

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะดีเบตอะไรหนักหนา ยุ่งอะไรกันหนักหนากับรัฐธรรมนูญไทย ต่อให้เขียน วิลิศมาหราเท่าไหร่ ก็มีปัญหาหมด เพราะคนไม่รับกฎหมาย ถามว่าวันนี้กฎหมายเดิมอยู่กันได้ไหม หากเขียนกฎหมายใหม่มาจะอยู่กันได้ไหม ให้ดีเบตกับผมแบบนี้ ที่ผ่านมาเคารพกฎหมายกันแค่ไหน

การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ถือเป็นการให้สัมภาษณ์ครั้งแรก ภายหลังจากมีการจัดระเบียบสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลใหม่ให้สามารถตั้งคำถามต่อนายกรัฐมนตรีได้เพียง 4 คำถามเท่านั้น สำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้จัดพื้นที่สำหรับสื่อมวลชนโดยนำสายพานมากั้นพื้นที่ระหว่างโพเดียมนายกฯ และผู้สื่อข่าว โดยมีการจัดเก้าอี้ และไมโครโฟนเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้แนะนำตัวก่อนตั้งคำถามนายกฯ  ตามมาตรการจัดระเบียบซี่ง พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้มาทำความเข้าใจและสอบถามประเด็นคำถามกับผู้สื่อข่าวก่อนสัมภาษณ์นายกฯ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงมาตรการใหม่ที่ให้สื่อมวลชนตั้งคำถามได้เพียง 4 คำถามว่า  เลขสี่มันดีมั้ง เจ๊ก หนอ ซา สี่ เลขสี่ดี ถ้าโหงวไม่ค่อยดีหรอกเพราะมันเกิน ถ้าวันหน้ามันคุยกันรู้เรื่อง แล้วมันดีขึ้นช่วยชี้แจงทำความเข้าใจมันก็อาจจะเป็นสี่ ห้า หกก็ได้ วันนี้สตาร์ทสี่ก่อน เลขดี โอเคนะ และกล่าวขอบคุณสวัสดี

หลังให้สัมภาษณ์จบนายกรัฐมนตรี ได้เดินจากโพเดียมเพื่อขึ้นรถเดินทางกลับทันที ขณะที่มีกลุ่มให้สนับสนุนประมาณ 10 คนที่มารอให้กำลังใจบริเวณด้านหน้าห้องรับรองพร้อมได้ส่งเสียง นายกฯสู้  ซึ่งนายกฯก็ได้โบกมือทักทายพร้อมกล่าวขอบคุณ ก่อนที่จะขึ้นรถเดินทางกลับออกไปทันที โดยนายกฯได้เดินทางเข้าทำเนียบฯ ก่อนที่เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์จะนำคสช.ร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่โรงพยาบาลศิริราช

ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด