*รองผบ.ตร.ชี้ทนายความผตห.คดีระเบิดราชประสงค์กล่าวหาจนท.ทำร้ายเข้าข่ายภัยค.มั่นคง*

หลังผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาในชั้นศาล รวมถึงนายชูชาติ กันภัยทนายความของนายอาเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซูฟู 2 ผู้ต้องหาคดีระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาธรออกมาระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมจนต้องรับสารภาพ  พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการทรมานผู้ต้องหาแต่อย่างใด เมื่อรับตัวมาจากทหารก็มีการตรวจร่างกาย เมื่อส่งตัวต่อไปที่เรือนจำก็ได้มีการตรวจร่างกายซ้ำอีกครั้ง โดยพนักงานสอบสวนมีทั้งพยานวัตถุ เอกสาร และพยานบุคคล ซึ่งเป็นการสั่งฟ้องตามหลักฐาน ไม่ใช่คำรับสารภาพ โดยการออกมาพูดของทนายชูชาติ ไม่ได้มีผลทางกฎหมาย และพนักงานอัยการได้พิจารณาตามพยานหลักฐานไม่ใช่คำกล่าวอ้าง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เปิดคลิปที่นายชูชาติ เคยให้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ภายหลังการเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาในเรือนจำ ชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11)  ว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยไม่ได้ถูกทำร้าย โดยพนักงานสอบสวนได้เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งต่อให้กับกองคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาต่อว่าคำพูดของนายชูชาติเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ ถ้าหากเป็นจะดำเนินการฟ้องกลับทันที และยังได้ตั้งข้อสังเกตุว่า นายชูชาติ เคยเป็นทนายความให้กับ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.เมื่อปี 2553 และเมื่อเกิดเหตุระเบิดขึ้น นายชูชาติเข้ามาเป็นทนายความให้กับผู้ต้องหาของคดีนี้  อีกทั้งผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ จึงมีข้อสงสัยว่า นายชูชาติเข้ามาดูแลคดีนี้ได้อย่างไร   พลตำรวจเอกศรีวราห์ ได้เปิดเผยว่า ตลอดการสอบปากคำผู้ต้องหา ไม่ได้มีการนำสุนัขเข้าไปเกี่ยวข้อง