+++ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบผลบันทึกความเข้าใจการเจรจาการบินระหว่างไทย-รัสเซีย เพิ่มความถี่การบินจากรัสเซียมายังกรุงเทพฯ และฝ่ายไทยไปยังกรุงมอสโก จากเดิม 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 70 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพิ่มความถี่ในการบินจากรัสเซียไปยังภูเก็ต และฝ่ายไทยไปยังเซนต์ปีเตอร์ สเบิร์ก จากเดิม 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 28 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยว
+++เรื่องนกแอร์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หารือกับนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ พร้อมด้วยนายปิยะ ยอดมณี รองประธานฯ นายอาคม เปิดเผยว่า เรียกนายพาที มาเป็นการตักเตือน ตามขั้นตอนแรก เนื่องจากผู้โดยสารได้รับความเดือดร้อน แต่ถ้าทำผิดซ้ำครั้งที่ 2 จะพักใบอนุญาตชั่วคราว และถ้าผิดครั้งที่ 3 จะถูกเพิกถอนใบอนุญาต ทั้งนี้ ได้ให้นกแอร์เร่งจัดทำแผนแก้ไขปัญหาระยะสั้น ส่งให้กระทรวงพิจารณาภายใน 3 วัน หรือวันที่ 18 ก.พ. นี้ โดยแผนต้องมีความชัดเจน ถึงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงให้ส่งแผนฉุกเฉินและแผนบริหารความเสี่ยงภายใน 1 เดือน ขณะเดียวกันจะเชิญ 41 สายการบินในสัปดาห์หน้าเพื่อให้ทำแผนฉุกเฉิน และดูแลผู้บริโภคให้ชัดเจน
+++นายพาที กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดปัญหา นกแอร์ได้นำเครื่องบินสายการบินอื่นบินลักษณะบินร่วมเข้ามาทดแทน และจะดำเนินการถึงวันนี้ หลังจากนั้นจะทำการบินปกติ ยอมรับความผิดพลาดเกิดจากการไม่ให้อำนาจผู้บริหารในการแก้ไขปัญหา
+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการพลเรือนพ้นจากตำแหน่ง ระบุว่ากระทรวงการคลังได้มีคำสั่งลงโทษไล่ นายสาธิต รังคสิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2559 และได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งต่อไปแล้ว ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หลังจากที่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงการคลัง หรือ อ.ก.พ.กระทรวงการคลัง ชี้มูลความผิดนายสาธิต อย่างร้ายแรงกรณีมีส่วนพัวพันโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) มูลกว่า 4,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2556 สมัยที่นายสาธิต เป็นอธิบดีกรมสรรพากร และระบุว่า มีข้าราชการกรมสรรพากรจำนวน 18 คน ที่มีส่วนพัวพัน
+++คดีระเบิดแยกราชประสงค์ ศาลทหารกรุงเทพ สอบปากคำนายบิลลาล เติร์ก มูฮัมเหม็ด หรืออาเดม คาราดัค และนายเมียไรลี ยูซุฟู สองผู้ต้องหาคดีวางระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทรเป็นครั้งแรก ผู้ต้องหาทั้งสองปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอต่อสู้คดีในชั้นศาล นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม เปิดเผยว่า จำเลยทั้งสองถูกตำรวจชั้นผู้ใหญ่สอบสวนทั้งคืนจึงจำเป็นต้องรับสารภาพเนื่องจากหวั่นถูกฆ่า ส่วนการทรมานพบว่าเป็นการเอาน้ำเย็นกรอกจมูก และข่มขู่จะส่งตัวให้ประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบ
+++ด้านนายอาเดม เบิกความต่อศาลว่า มีสัญชาติจีนเชื้อชาติอุยกูร์ อาศัยอยู่ที่เมืองอุลุมชี เขตการปกครองพิเศษซินเจียง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเนื่องจากกลัวทางการจีน มีอาชีพเป็นคนขับรถ และขอปฏิเสธข้อหาที่อัยการศาลทหารเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
+++นายเมียไรลี เบิกความว่า เป็นนักศึกษาอาศัยอยู่ที่ประเทศจีน และขอยื่นความจำนงให้มีการจัดหาทนายโดยจะดูแลค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง รวมทั้งขอเร่งรัดให้ศาลรีบดำเนินคดี ยืนยันว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์
+++พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า เป็นสิทธิผู้ต้องหาที่จะปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานเอาผิดได้ ส่วนการทรมานเพื่อให้รับสารภาพยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ทั้งนี้ อัยการทหาร ได้ขอเวลารวบรวมหลักฐาน เนื่องจากมีแฟ้มเอกสารมากกว่า 55 แฟ้ม โดยศาลได้นัดคู่ความตรวจพยานในวันที่ 20-22 เม.ย.
+++กรณีที่มีการเรียกร้องให้รับคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พงส.ผนพ.สน.เทียนทะเล และเลขาธิการสหพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ เป็นคดีพิเศษ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตามกฎหมาย การจะรับคดีดังกล่าวมาเป็นคดีพิเศษ น่าจะทำไม่ได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่แล้ว คงไม่มีอำนาจไปทำ หากทำจะกลายเป็นการก้าวก่ายกันไปหมด มันมีเงื่อนไขอยู่แล้วว่าอะไรที่จะรับเป็นคดีพิเศษ คดีนี้ไม่เข้าประเด็นคงรับไม่ได้ อะไรที่มีหน่วยงานอื่นดูอยู่แล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะไม่เข้าไปยุ่ง แต่หากมีคนร้องมา คงทำเรื่องส่งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบทราบว่ามีการร้องเรียนประเด็นอะไร ยกเว้นผู้เสียหายโดยตรงจะขอความเป็นธรรมเข้ามาก็อาจจะ พิจารณา
+++พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รรท.ผบช.น.) ประชุมชุดคลี่คลายคดี พ.ต.ท.จันทร์ พร้อมตรวจสำนวนสอบสวน พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า ผลการตรวจเลือดของ พ.ต.ท.จันทร์ จากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ออกมาแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะผลดังกล่าวยังไม่เป็นทางการ การตรวจสอบพบว่าโทรศัพท์มือถือ ปิดเครื่องตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ จากนั้นในช่วงเช้าของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ภรรยาและลูกสาวยังพบ พ.ต.ท.จันทร์อยู่ จึงเป็นไปได้ว่า พ.ต.ท.จันทร์ อาจจะตั้งใจปิดเครื่องเนื่องจากไม่ต้องการติดต่อใคร ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำพยานเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้สอบไปแล้ว 7 ปาก มีทั้งคนในครอบครัว พยานแวดล้อมที่เชื่อว่าพบ พ.ต.ท.จันทร์ ก่อนเกิดเหตุ รวมถึงผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.ท.จันทร์
+++พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการฟื้นฟูชุมชนดินแดง หลังลงพื้นที่ภาคสนาม 4 วัน (ตั้งแต่วันที่ 13 - 17 ก.พ.) เพื่อดำเนินการสำรวจข้อมูลผู้พักอาศัย สำรวจสิทธิ พร้อมทั้งทำความเข้าใจ และรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะของผู้พักอาศัย
+++พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ณ ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย
+++ ราคาน้ำมันตลาดโลก ปิดลบ ไม่เชื่อมั่นต่อข้อตกลงเบื้องต้นสำหรับการตรึงกำลังผลิตของบรรดาชาติผู้ส่งออก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 29.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 32.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นายอาลี อัลไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ระบุว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการซึ่งจะใช้ประเมินผลในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า แล้วค่อยตัดสินใจว่าจำเป็นจะต้องใช้วิธีอื่นในการรับรองและสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหรือไม่
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรงจากแรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยีและธนาคาร ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 222.57 จุด ปิด 16,196.41 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 30.80 จุด ปิดที่ 1,895.58 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 98.44 จุด ปิดที่ 4,435.96 จุด
+++ราคาทองคำ ดิ่งลงกว่าร้อยละ 3 หลังการพุ่งทะยานของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หันเหความสนใจของนักลงทุนไปจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 31.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,208.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์