+++วันนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานโจทก์คดีจำนำข้าวนัดที่ 2 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปรับฟังการไต่สวนครั้งนี้ด้วย คดีนี้ อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ทีมทนายความเตรียมความพร้อมเพื่อรับฟังและซักค้านการไต่สวนพยานโจทก์
+++พนักงานอัยการโจทก์ เตรียมพยานให้ศาลไต่สวน 4 ปาก ได้แก่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อดีตประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว น.ส.แน่งน้อย เจริญทวีทรัพย์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต น.ส.ศิรสา กันต์พิทยา รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และนายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
+++ส่วนเอกชน 16 ราย ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ที่จะเข้ายื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 3.6 แสนตันวันนี้ ติดตามว่ารายใดจะคว้าข้าวล็อตนี้ไป
+++คดีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตรวจสอบคดีของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี เนื่องจากคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คาดว่า จะเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ คงมีการกำหนดฐานความผิด และฟ้องร้องไปตามกฎหมาย พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า การตรวจสอบของดีเอสไอ เป็นการตรวจสอบการกระทำผิดของบุคคลกับกลุ่มบุคคลกระทำผิดกฎหมาย และไม่ใช่เรื่องของศาสนา อย่าพยายามดึงเรื่องเข้าไปเชื่อมโยงกัน
+++ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอ สอบถามไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เรื่องพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช กรณีอาบัติปาราชิกของพระธัมมชโย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ดีเอสไอได้รับหนังสือตอบกลับจากพศ. เรื่องมติมหาเถรสมาคม (มส.) แล้ว มอบหมายให้พนักงานสอบสวนสำนักคดีความมั่นคง รับไปศึกษารายละเอียด ก่อนเรียกประชุมกันอีกครั้ง
+++เรื่องการตรวจสอบรถเบนซ์ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร มีชื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ และผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ครอบครอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า 09.30 น. พรุ่งนี้ ดีเอสไอจะแถลงรายละเอียดทั้งหมด เบื้องต้น ได้รับรายงานสรุปผลการตรวจสอบจากอธิบดีดีเอสไอว่า รถคันดังกล่าวผิดกฎหมาย ขณะที่ ผู้ครอบครองจะมีความผิดด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องของขั้นตอนดำเนินการว่ารู้หรือจงใจหรือไม่ และขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้กรมศุลกากรจัดการประเมินภาษี เนื่องจากเป็นรถในบัญชีรายชื่อรถจดประกอบหลีกเลี่ยงภาษี
+++กรณีเมื่อวันจันทร์ เครือข่ายคณะสงฆ์และองค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 ทั่วประเทศ (คสพ.) แสดงจุดยืนที่พุทธมณฑล พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบกลุ่มผู้อยู่เบื้องหลัง
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับข้อเสนอของคณะสงฆ์ 5 ข้อ พร้อมเปิดเผยว่า ภาพรวมถือว่ารับได้ ยกเว้นข้อ 5 ขอกำหนดให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ จะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้พิจารณา ส่วนการปะทะระหว่างคณะสงฆ์กับทหาร ได้รับทราบข้อชี้แจงแล้ว ขณะที่ปัญหาการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้พิจารณาตามระเบียบกฎเกณฑ์อย่างรอบด้าน สั่งการให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแล ยืนยันว่ารัฐบาลทำตามขั้นตอน ไม่จำเป็นต้องหารือเป็นพิเศษ
+++การเตรียมทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดกิจกรรมพบสื่อมวลชน ช่วงบ่าย พูดคุยเรื่องการเตรียมทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ นำสื่อมวลชนชมศูนย์เตรียมการและประสานงานการออกเสียงประชามติ
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอ กกต.ส่งรายละเอียดเกี่ยวกับการทำประชามติ รอดูตัวเลขวงเงินที่จะต้องใช้ และร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับระเบียบการทำประชามติ ซึ่งกกต.ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่ส่งมาที่รัฐบาล
+++ส่วนวันนี้ ที่มีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่จะยื่นหนังสือถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ขอให้ทบทวนร่างรัฐธรรมนูญในหมวดการปกครองท้องถิ่น ด้านกระทรวงมหาดไทย ยืนยันชี้แจงทำความเข้า ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ขอให้ใจเย็นเพราะร่างรัฐธรรมนูญยังไม่สมบูรณ์ ต้องดูกันอย่างละเอียด มีการสอบถามว่า ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ เกิดความวุ่นวายขึ้นหลายประเด็น มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะตัวเองดูอยู่ นายกรัฐมนตรี ไม่ห่วงอะไร ห่วงอย่างเดียวจะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า และห่วงว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ทำไปแล้วเข้าไปถึงประชาชนจริงหรือไม่
+++นายวิษณุ กล่าวว่า ประเด็นใหญ่อีกประเด็นหนึ่งที่ได้เสนอ กรธ.คือ สิทธิเสรีภาพ รัฐบาล จึงเสนอให้เขียนเรื่องดังกล่าวให้มีความชัดเจน ส่วนความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ก่อนการทำประชามติในร่างรัฐธรรมนูญ นัดหมายกับคณะกรรมการกฤษฎีกาในอีก 2 วัน
+++ภาระกิจการเดินทางเยือนสหรัฐฯ วันที่ 3 ของพล.อ.ประยุทธ์ ประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ โดยการการประชุมช่วงที่ 2 (Retreat II) ของการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ในหัวข้อ “Protecting Peace, Prosperity, and Security in the Asia-Pacific” ที่ประชุมได้หารือในประเด็นต่างๆ ครอบคลุม การก่อการร้าย การเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศของโลก การสาธารณสุข และปัญหาการค้ามนุษย์
+++พล.ต. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการประชุมว่า นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับอาเซียนและสหรัฐฯ เพื่อรับมือกับประเด็นท้าทายข้ามชาติ ซึ่งเป็นทั้งภัยเร่งด่วนและไม่สามารถแก้ไขโดยประเทศใดประเทศหนึ่งได้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงงานสาธารณสุข โดยชื่นชมความเป็นผู้นำของประธานาธิบดีบารัก โอบามา และสหรัฐฯ ที่มีส่วนสำคัญ ในการช่วยยุติการระบาดของไวรัสอีโบลาไทยพร้อมสนับสนุน
+++ นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งระบบ โดยถือเป็นวาระแห่งชาติ โดยเฉพาะการปรับแก้กฎหมายให้เข้มงวดขึ้น การลงโทษเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด และดำเนินคดีตามกฎหมาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยยังให้ความสำคัญการแก้ปัญหาการประมง IUU ที่เกี่ยวเนื่องกับการค้ามนุษย์
+++นายกรัฐมนตรี หวังว่า สหรัฐฯ จะยังคงร่วมมือกับอาเซียนในการตอบโต้ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นภัยคุกคามอาเซียนอย่างรุนแรงในทุกปี และขอให้สหรัฐฯ ช่วยสนับสนุนระบบโลจิสติกส์ของการปฏิบัติการด้านการบรรเทาทุกข์และการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินจากภัยพิบัติของอาเซียน หลังเสร็จสิ้นนายกรัฐมนตรีร่วมถ่ายภาพหมู่กับผู้นำอาเซียนและประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วย จากนั้นในเวลาประมาณ 23.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ และจะเดินทางถึงประเทศไทยในวันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 13.30 น.
+++การติดตามเรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่เกียกกาย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. และนางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จะไปเยี่ยมชมโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่