*ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นหลังผู้ผลิตรายใหญ่นัดหารือแผนลดกำลังผลิตในกาตาร์ในวันนี้*

รอยเตอร์รายงานว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษ ปรับขึ้นร้อยละ 6 แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันนี้ ขณะเดียวกันการนัดประชุมของรัฐมนตรีน้ำมันจากซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย กาตาร์และเวเนซุเอลาในกรุงโดฮา กาตาร์ในวันนี้ ทำให้เกิดความหวังว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะหารือมาตรการแก้ไขปัญหาปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาดโลก ส่งผลให้ราคาร่วงลงต่อเนื่องมาแล้วกว่า 18 เดือน

การประชุมครั้งนี้บ่งชี้ว่า ผู้ผลิตรายใหญ่อาจจะยอมเปลี่ยนจุดยืนจากเดิมที่พวกเขามุ่งเน้นการปกป้องส่วนแบ่งตลาดของตนเอง ไม่ใช่เพื่อปกป้องราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก สำหรับราคาน้ำมันดิบงวดส่งเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.87 ดอลลาร์ อยู่ที่ 35.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 08.24 น. ปรับขึ้นร่วมร้อยละ 11 ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ ราคาขึ้น 2.16 ดอลลาร์อยู่ที่ 35.55 ในช่วงแรกๆของการซื้อขายวันนี้ นับว่าสูงสุดนับแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ส่วนราคาน้ำมันดิบของสหรัฐฯปรับขึ้น 1.49 ดอลลาร์อยู่ที่ 30.93 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ราคาปรับขึ้นไปที่ 31.23 ดอลลาร์ นับว่าสูงที่สุดนับแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องจากการปรับขึ้นกว่าร้อยละ 12 เมื่อวันศุกร์ก่อน

ด้านนายทาคายูกิ โนงามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเจแปน ออย แกส แอนด์ เมทัล เนชั่นแนลคอร์ป ระบุว่าผลการประชุมครั้งนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ หากไม่มีการบรรลุข้อตกลง อาจจะทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดต่อไป แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนไป เช่นอิหร่านระงับแผนเพิ่มการผลิตให้สูงขึ้น ซาอุดิอาระเบียร่วมกับอิรักและอิหร่านเพื่อลดกำลังการผลิตลง ราคาน้ำมันดิบจะปรับขึ้นค่อนข้างมาก แต่นักวิเคราะห์บางคน รวมถึงนายแดเนียล อัง จากบริษัทฟิลิป ฟิวเจอร์สในสิงคโปร์ แสดงความไม่แน่ใจในเรื่องผลการประชุมของผู้ผลิตรายใหญ่ในครั้งนี้ ระบุว่าไม่น่าจะได้ข้อสรุปอย่างชัดเจน/16.16 น.