*รองอัยการสูงสุด ชี้จำนำข้าว ต้องพิสูจน์ความจริงในศาล*

13 กุมภาพันธ์ 2559, 13:29น.


หลังนายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดโครงการจำนำข้าว ระบุว่า ตัวเลขที่ประชาชนได้รับในส่วนต่างราคาจำนำข้าวไม่คิดเป็นความเสียหาย รวมทั้งปลัดกระทรวงกระพาณิชย์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การปิดบัญชีรับจำนำข้าวรอบปี 2558 ที่กระทรวงการคลังระบุมีข้าวหายจากสต๊อก 390,000 ตันนั้นเป็นการลงบัญชีผิดพลาดและยังไม่ได้ข้อสรุปทางบัญชี นายชุติชัย สาขากร รองอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดคณะทำงานอัยการสำนวนคดีรับจำนำข้าว – ระบายข้าวรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี กล่าวถึงกรณีข้างต้นว่าจะไม่มีผลต่อการนำสืบพยานพิสูจน์ข้อเท็จจริง คดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบโครงการจำนำข้าว ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้นายจิรชัย เป็นหนึ่งในบัญชีพยานอัยการที่จะต้องให้ศาลไต่สวนก็ตาม



ในคดีจำนำข้าว อัยการได้ยื่นฟ้องเป็นคดีอาญา ดังนั้นต้องพิสูจน์ถึงเจตนาการกระทำว่าได้มีการดำเนินการสุจริตหรือไม่ ส่วนตัวเลขความเสียหายนั้นไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่ถ้าพบความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว แม้เพียงเล็กน้อย ถือว่าเป็นความผิดเข้าองค์ประกอบกฎหมายแล้ว ส่วนที่ทนายความจำเลย จะนำประเด็นดังกล่าวต่อสู้คดีในชั้นศาล ก็เป็นเรื่องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของจำเลย และศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย



 สำหรับคดีโครงการจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ เป็นจำเลยนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานอัยการโจทก์ ครั้งที่สอง ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ เวลา 09.30 น. โดยอัยการ เตรียมพยานให้ศาลไต่สวน รวม 4 ปาก ประกอบด้วย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. อดีตประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว , น.ส.แน่งน้อย เจริญทวีทรัพย์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งเป็นนักวิชาชีพการตรวจสอบบัญชี ที่จะเบิกความประเด็นหลักการทางบัญชี , น.ส.ศิรสา กันต์พิทยา รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ( สบน.) สังกัดกระทรวงการคลัง เบิกความเรื่องหนี้สาธารณะ และนายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เบิกความการเบิกจ่ายเงินให้กับชาวนามีจำนวนมาก-น้อยเพียงใด.

ข่าวทั้งหมด

X