ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันในตลาดโลก น้ำมันพุ่งขึ้นในวันศุกร์ ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดตั้งแต่ 2003 หลังมีข่าวกลุ่มประเทศที่ส่งน้ำมัน(โอเปก) มีความตั้งใจลดกำลังการผลิตเพื่อคลี่คลายภาวะอุปทานล้นตลาด ปัจจัยนี้ประกอบกับหุ้นกลุ่มธนาคารช่วยดันหุ้นวอลล์สตรีปรับขึ้น สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 3.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 33.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาน้ำมันคือรายงานข่าวของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่อ้างคำพูดของรัฐมนตรีพลังงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ระบุว่า โอเปกมีความตั้งใจร่วมมือกับผู้ผลิตอื่นๆในการปรับลดกำลังผลิตน้ำมันดิบ รายงานข่าวเป็นการกล่าวอ้างทวีตเตอร์ของผู้สื่อข่าวรายหนึ่งที่เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีรายนี้กับสำนักข่าวสกายนิวส์ ซาอุดีอาระเบีย แต่ก็เพียงพอที่จะจุดชนวนความผันผวนครั้งใหญ่ในตลาด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง จากแรงหนุนของกลุ่มธนาคาร เช่นเดียวกับตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐฯและการฟื้นตัวอย่างมากของราคาน้ำมัน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 313.66 จุด ปิดที่ 15,973.84 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 35.70 จุด ปิดที่ 1,864.78 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 70.67 จุด ปิดที่ 4,337.51 จุด ภาคธนาคารเคลื่อนไหวร้อนแรงที่สุด หลังจากดิ่งลงอย่างหนักตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาทองคำในวันศุกร์ ปรับลงแรง หลังการฟื้นตัวของตลาดทุน ทำให้นักลงทุนลดความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,239.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์