การขยายผลคดีฆ่าหั่นศพนายเดวิด เบอร์นาร์ด นักธุรกิจชาวสเปน พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ10 ในฐานะหัวหน้าชุดทำงานคลี่คลายคดีฆ่าหั่นศพ กล่าวว่า คดีมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ80 โดยผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอที่พบในคอนโดย่านพระราม9 สามารถยืนยันได้ว่าเป็นจุดที่ใช้ในการหั่นศพ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอที่ดังกล่าวตรงกับผู้เสียชีวิตและนายอาเธอร์ เซการ์รา ปริ๊นเซป ผู้ต้องหาอีกทั้งการตรวจดีเอ็นเอจากรถจักรยานยนต์ ยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาได้ใช้รถคันดังกล่าวจริง ซึ่งวัตถุพยาน หลักฐาน เอกสาร ร่องรอยการกระทำ และเหตุแรงจูงใจเป็นประเด็นหลักที่มีความเชื่อมโยงและบ่งชี้ว่านายอาเธอร์เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ส่วนการตรวจสอบตู้แช่ที่เป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญ ยังตรวจไม่พบดีเอ็นเอในตู้แช่ แต่เชื่อว่าผู้ต้องหาใช้ในการนำร่างผู้เสียชีวิตไปแช่ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องสำคัญสามเรื่องที่ยังไม่พบ ประกอบด้วย จุดทิ้งศพ , กล่องอุปกรณ์ที่ใช้บรรจุอุปกรณ์ที่ใช้หั่นศพ และทรัพย์สินผู้สียชีวิต ส่วนจะมีผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมหรือไม่
พล.ต.อ.ปัญญา ระบุว่า ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่จะพบหลังจากนี้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ประสานตำรวจสากลในการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา เช่น เดียวกับการสืบสวนหาเส้นทางการเงินของผู้ตายด้วย สั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเป้าหมายต่างๆอย่างละเอียด เพื่อให้คดีมีความชัดเจน สำหรับนางสาวปริศนา แสนอุบล เพื่อนสาวของนายอาเธอร์ ขณะนี้ยังอยู่ในฐานะพยานปากสำคัญในคดี โดยยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ตำรวจ จะเร่งสรุปสำนวนคดีและส่งฟ้องผู้ต้องหาให้เร็วที่สุด และไม่มีความกังวล เนื่องจาก ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการฝากขังผู้ต้องหาผัดแรกเท่านั้น
พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐก.เปิดเผยว่า การตรวจพิสูจน์หลักฐานมีความเชื่อมโยงกัน เริ่มจากการตรวจห้องพักผู้เสียชีวิตบริเวณสุขุมวิท ซ.8 ตรวจสอบทาวเฮาส์ที่หมู่บ้านเดอะวิลลา ซอย รามคำแหง174 ส่วนผลดีเอ็นเอที่บ้านพักพระราม 9 จากการตรวจ พบดีเอ็นเอของหญิง4คน ชาย 2คน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบดีเอ็นเอทั้งหมดในบ้านย่านพระราม9ตรงกับผู้เสียชีวิต ซึ่งสอดคล้องกันทำให้เชื่อได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวมีการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากอาจกระทบกับรูปคดีและอาจจะเป็นช่องโหว่ให้ผู้ต้องหาใช้ต่อสู้คดีได้