*ธปท.เตือนค่าบาทผันผวน/กกพ.บริหารต้นทุนไม่ให้ค่าไฟแพงขึ้น/ประชุมทุนรัฐบาล*

12 กุมภาพันธ์ 2559, 08:22น.


+++กองทุนอนุรักษ์พลังงาน กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ภายหลังกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบการใช้เงินกองทุนที่มีการปรับเปลี่ยนงบดุลปี 2558 พบว่าหายไปถึง 1.6 หมื่นล้านบาท น.ส.รสนา โตสิตระกูล ตัวแทนกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย ยื่นหนังสือต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)คนที่หนึ่ง เพื่อให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เนื่องจากกกองทุนดังกล่าวเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันทุกชนิดลิตรละ 25 สตางค์ได้เงินเข้ากองทุนประมาณปีละ 8,000-9,000 ล้านบาท ปัจจุบันเงินกองทุนมีเงินสะสมสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท แต่จากการตรวจสอบรายละเอียดของกิจกรรมที่รับทุนมีการแสดงฐานะการเงินของกองทุนฯรวมทั้งข้อมูลแสดงฐานะการเงินในปี 2558 พบตัวเลขผิดปกติ 3 เดือนคือพ.ค. มิ.ย. และ ธ.ค. มีการปรับเปลี่ยนงบดุล โดยเฉพาะในปี 2558 มีตัวเลขขาดหายไป 16,949.59 ล้านบาท



+++เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ตรวจสอบยอดเงินที่ขาดหายไปได้อย่างไร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลคสช.หรือไม่ และให้ตรวจสอบการใช้เงินกองทุนฯดังกล่าวย้อนหลังอย่างน้อย 10 ปี ว่ามีการให้ทุนกับองค์กรใดบ้าง แต่ละองค์กรจำนวนเท่าใด และมีกรรมการที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่



+++เรื่องค่าไฟ นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน  (กกพ.) เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 2559) ยอมรับว่า มีแนวโน้มต้นทุนเพิ่มขึ้น แม้ราคาก๊าซธรรมชาติ ที่เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าจะลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันก็ตาม แต่มีปัจจัยอื่นที่เพิ่มขึ้น ทั้งอัตราแลกเปลี่ยนมีทิศทางอ่อนค่าลง ความต้องการใช้ไฟแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากอากาศที่ร้อน รวมถึงภัยแล้ง กกพ.จะบริหารจัดการต้นทุน เพื่อไม่ให้ค่าไฟฟ้าขยับเพิ่มขึ้น



+++สถานการณ์เศรษฐกิจไทย นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุนต่อไปตลอดทั้งปี และยังมีโอกาสที่จะผันผวนเพิ่มขึ้นด้วย และอาจจะทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าออกเปลี่ยนแปลงเร็ว ส่งผลต่อค่าเงินบาทผันผวนตาม เตือน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับค่าเงินต้องระวังความเสี่ยง อย่าชะล่าใจว่าค่าเงินจะไปในทิศทางเดียว หรือไปข้างใดข้างหนึ่งตลอด เพราะค่าเงินยังเป็นไปได้ทั้งสองทิศทาง ไม่ว่าแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลง ซึ่งจะต้องดูว่าสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.ตามที่ตลาดคาด หรือไม่  ธปท.คาดว่าจะเลื่อนออกไปก่อน ก็มีโอกาสที่เงินทุนจะไหลเข้า แต่หากเศรษฐกิจจีนแย่ลง เงินทุนก็จะไหลออกจากประเทศไทยมากขึ้น มองว่า เศรษฐกิจจะ ฟื้นตัวดีขึ้น ขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 และยังมีความเสี่ยงที่จะโตต่ำอยู่มาก ธปท.จะดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนเมื่อเทียบกับหลายๆ สกุลที่เป็นคู่ค้าคู่แข่ง  ดูแลให้เงินทุนสมดุลกันทั้งขาเข้าและออก



+++เรื่องการปฏิรูปประเทศ วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คณะที่ 5 ที่ทำเนียบรัฐบาล ต้องติดตามว่าจะมีข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปประเทศใส่ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญด้วยหรือไม่



+++สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการรายงานสรุปความคืบหน้าการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่เกียกกาย ในที่ประชุมสนช.ด้วย



+++การประชุมคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ (คทป.) พล.อ.ประยุทธ์ เร่งรัดแก้ปัญหาการละเมิดและจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจากนี้จะมีการประชุมร่วมกับหลายประเทศทั่วโลกในเดือน เม.ย.นี้ จำเป็นต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้เร็วขึ้น 3 แนวทาง คือ การป้องกันและปลูกจิตสำนึกไม่ใช้ของปลอม และส่งเสริมสินค้าโอทอป ถ้าไม่มี ซื้อไม่ได้ ก็อย่าใช้ของปลอม ต่อไปต้องมีมาตรการสำหรับผู้ใช้ด้วย จะเอาเพียงคนขายอย่างเดียวไม่พอ ส่วนการปราบปรามจะต้องบูรณาการทุกภาคส่วน และดูเรื่องกฎหมายว่ามีเพียงพอและทำได้หรือไม่



+++คดีอาชญากรรมฆ่าหั่นศพนายเดวิด เบอร์นาร์ด ชาวสเปน นำชิ้นส่วนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายอาเธอร์ เซการ์รา ปริ๊นเซฟ หรืออาร์ตูร์ อายุ 37 ปี เพื่อนร่วมชาติ ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ และส่งฝากขังต่อศาลอาญาและถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) กล่าวว่า พนักงานสืบสวนสอบสวนจะประชุมกันอีกครั้ง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อวิเคราะห์หลักฐานต่างๆ และพิสูจน์ทราบว่ายังมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ หรือก่อเหตุเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์อย่างเดียวหรือไม่ หรือมีมูลเหตุอื่น



+++พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวถึงประเด็นก่อนที่นายอาเธอร์จะเดินทางมาประเทศไทย เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าหั่นศพที่ประเทศสเปนหรือไม่ว่า คาดว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะข้อมูลยังไม่ชัดเจน มีข้อมูลแต่อยู่ในระหว่างตรวจสอบของทางสเปน ส่วนการตรวจสอบว่านายอาเธอร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ ก็ได้สอบถามจากเจ้าหน้าที่ของสเปนแล้วยืนยันว่านายอาเธอร์ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศสเปน และเงินที่นายอาเธอร์ เอาจากนายเดวิดมาจากการกระทำความผิดหรือไม่ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทราบเพียงว่าทั้ง 2 คนรู้จักกันในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง กรณี น.ส.ปริศนา หรือพลอย แสนอุบล เพื่อนสาวคนสนิทของนายอาเธอร์ ก็ยังไม่ได้แจ้งความใดๆ เพียงแค่สอบถามในฐานะพยานคนหนึ่ง และไม่ได้กันไว้เป็นพยาน เพราะการที่กันไว้เป็นพยานแสดงว่าผู้นั้นต้องทำผิดร่วมด้วย แต่ในกรณีของ น.ส.ปริศนาไม่พบหลักฐานว่าเป็นผู้ที่ร่วมกระทำความผิดด้วย



+++เรื่องทุนรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะหารือกับเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมเชิญหน่วยงานที่ให้ทุนในประเทศไทย ประมาณ 20 หน่วยงานมาคุยถึงการจัดสรรทุน การหานักเรียนไปเรียน การใช้ทุนคืน เพราะทุนบางแห่งมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน บางที่ต้องใช้คืน บางทุนใช้คืนเป็น 2 เท่า เพื่อวางระเบียบแบบแผน



+++วงการศึกษา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลัง ศธ.ให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ปรับปรุงการออกข้อสอบทั้งระบบ ภายหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) และการทดสอบวิชาสามัญ 9 วิชา ยากมาก โดยจะปรับทั้งระบบ ตั้งแต่การออกข้อสอบ หลักสูตร การจัดการเรียนการสอน การออกข้อสอบ และการวัดประเมินผล  สทศ.ออกมายอมรับแล้วว่าข้อสอบยากจริง จึงขอให้ สทศ.กลับไปดูให้ชัดเจนว่าถ้าข้อสอบยากแล้ว การที่เด็กสอบได้ 20-30 คะแนน ถือว่าสอบผ่านหรือไม่ รวมถึงต้องย้อนกลับมาดูการวัดประเมินผลทั้งภายนอกและภายในอย่างจริงจัง ต่อไปการออกข้อสอบจะต้องไม่หนีจากความรู้ของเด็ก



+++เรื่องชายชาวโอมาน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวง สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการรักษาชายชาวโอมานที่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส ว่าหลังจากที่ผู้ป่วยเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค. และมีการส่งต่อเข้ามารักษาต่อที่สถาบันบำราศนราดูร  ล่าสุดจากการตรวจสอบด้วยวิธีชีวโมเลกุลทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของสถาบันบำราศฯ  และที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ผลยืนยันตรงกันว่าเป็นลบ ปลอดจากเชื้อเมอร์สแล้ว ส่วนผลการตรวจหาเชื้อเมอร์ส ในลูกชายที่เดินทางมาพร้อมกัน ไม่พบเชื้อเมอร์สเช่นเดียวกัน แพทย์จึงได้จำหน่ายออกจากสถาบันฯ เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้  และเดินทางกลับประเทศโอมานแล้ว



+++วงการกีฬาแบดมินตัน อาการบาดเจ็บของ ส้ม สราลีย์ ทุ่งทองคำ นักแบดมินตันสาวทีมชาติไทยวัย 37 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างลงเล่นประเภทคู่ผสมกับ เต่า สุดเขต ประภากมล คู่มือ 29 ของโลก ในรอบสองเมื่อวันพุธที่ 10 ก.พ. จากการตรวจอย่างละเอียดพบว่าเอ็นไขว้หน้าเข่าซ้ายขาด กระดูกอ่อนใต้ลูกสะบ้าแตกต้องเข้ารับการผ่าตัด และฟื้นฟูอย่างน้อย 3-6 เดือน ส่งผลให้หมดโอกาสลุ้นไปแข่งขันรอบสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ สมัยที่ 5 ที่บราซิล ต้องปิดฉากลงอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากเจ้าตัววางแผนแข่งขัน 3 รายการที่ยุโรปในเดือนมี.ค. และอีก 3 รายการ ในเดือนเม.ย.นี้ ส้ม เปิดเผยว่า อาการเจ็บครั้งนี้จำต้องแขวนแร็กเกตแน่นอนแล้ว และเตรียมกลับไปรับใช้ต้นสังกัดคือ กรมกิจการพลเรือน กองทัพอากาศ ซึ่งหากสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ต้องการให้มาช่วยฝึกสอนนักกีฬารุ่นน้อง ก็พร้อมนำประสบการณ์ที่มีอยู่มาช่วยพัฒนา ด้านคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคม เปิดเผยว่า พร้อมที่จะนำ ส้ม สราลีย์ มาเป็นทีมงานผู้ฝึกสอนของสมาคม เพราะเป็นผู้ที่มีความสามารถ มีประสบการณ์สูง เป็นที่เคารพนับถือ และเป็นแบบอย่างที่ดีของนักกีฬาในรุ่นต่อไป



+++สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้นายกสมาคมคนใหม่แล้ว พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่นายกสมาคม ฟุตบอลคนใหม่ แถลงข่าวให้ความมั่นใจในการบริหารงานสมาคมอย่างเต็มที่ตามนโยบาย เน้นความความถูกต้อง โปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ นัดประชุมทีมงานวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพื่อวางกรอบแนวทางทำงาน



 

ข่าวทั้งหมด

X