*น้ำมันโลก-หุ้นสหรัฐฯร่วงอีก สวนทางทองพุ่งแรง/ เตรียมฟ้องเอกชนทุจริตข้าวจีทูจี*

12 กุมภาพันธ์ 2559, 06:44น.


+++สถานการณ์ราคาน้ำมันโลก น้ำมันดิบสหรัฐฯ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 13 ปี หลังไม่มีปัจจัยใหม่ๆยกเว้นแต่ความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลงอีก 1.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 26.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2013 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 78 เซนต์ ปิดที่ 30.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  นักวิเคราะห์ มองว่า เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวทั่วโลก ส่งผลกระทบเกิดแรงกดดันต่อตลาดน้ำมัน ประกอบกับรายงานจากโอเปก ที่ระบุว่า กำลังผลิตของกลุ่มโอเปก เพิ่มขึ้นราว 1 แสน 30,000 บาร์เรลต่อวัน



+++หุ้นกลุ่มธนาคารฉุดตลาดหุ้นสหรัฐฯขยับลงแรงในวันพฤหัสบดี จากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะยังคงก่อแรงกดดันทางลบต่ออัตราดอกเบี้ย  ดาวโจนส์ ลดลง 254.56 จุด ปิด 15,660.18 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 22.78 จุด ปิดที่ 1,829.08 จุด อสแอนด์พี500 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ก่อนฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย และแนสแดค ลดลง 16.76 จุด ปิดที่ 4,266.84 จุด 



+++วันนี้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศ หลังจากที่ปิดตลาดเมื่อวานนี้ลดลงถึง 24 จุด ปิดที่ 1,280.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,363.34 ล้านบาท นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะจากตลาดหุ้นยุโรปซึ่งเปิดทำการในช่วงบ่ายและปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงเนื่องจากกังวลต่อปัญหาของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ มองว่าการเทขายหุ้นไทยเป็นแรงขายตามจิตวิทยา



 +++นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบของปีที่แล้ว และ แนวโน้มปีนี้ด้วย



+++ราคาทองคำ  ทะยานขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์ นักลงทุนหันมาถือครองในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 53.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,247.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ขณะที่นายวรุต รุ่งขำ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำมีสัญญาณดีต่อเนื่องในช่วงนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ขณะที่สภาทองคำโลกประเมินว่าอุปทานทองคำมีแนวโน้มลดลง สวนทางกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากธนาคารกลางหลายประเทศที่เริ่มสะสมทองคำเป็นทุนสำรองแทนสกุลเงินดอลลาร์ที่มีเสถียรภาพลดลง



+++สัปดาห์หน้า 15-16 กพ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เดินทางร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ที่ประเทศสหรัฐฯ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เป็นการเข้าร่วมการประชุมตามคำเชิญของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นับได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองอย่างเป็นรูปธรรมว่าสหรัฐฯ มีความจริงจังในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและสหรัฐฯ  ทั้งนี้ ในบริบทของความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยในกรอบของอาเซียนกับสหรัฐฯ  นายกรัฐมนตรี ย้ำหลักการต่างประเทศว่าไทยต้องมีเกียรติและศักดิ์ศรี และต้องเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบทั้งต่ออาเซียนและประชาคมโลก ยืนยันว่า รัฐบาลไทยมีเกียรติ ศักดิ์ศรี และ มารยาท มากพอที่จะไม่แสวงประโยชน์ใดๆ จากการเข้าร่วมประชุมตามที่มีอดีตนักการเมืองบางคนกล่าวอ้าง โดยใช้บรรทัดฐานทางความคิดของตัวเองเป็นตัวกำหนด



+++เรื่องร่างรัฐธรรมนูญ การส่งความเห็นและข้อเสนอแนะของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ต่อร่างรัฐธรรมนูญ ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)พิจารณาทบทวน นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. กล่าวว่า คณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษาเสนอแนะและรวบรวมความเห็นเพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สนช.  ได้รวบรวมความเห็นของสมาชิก สนช. และบุคคลภายนอกที่ได้เสนอแนะความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะนำเข้าสู่ที่ประชุม สนช.ในวันนี้ เวลา 10.00น. เพื่อให้สมาชิกลงมติเห็นชอบ ก่อนส่งให้ กรธ.ภายในวันที่ 15 ก.พ. โดยข้อเสนอที่จะส่งให้กรธ.มีอยู่ประมาณ 20 ประเด็น เช่น การเสนอแนะให้ปรับปรุงเนื้อหาเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเมือง การปรับปรุงเรื่องสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และสิทธิมนุษยชนที่ยังขาดหายไปในร่างรัฐธรรมนูญจึงควรปรับปรุงเพื่อให้รัฐธรรมนูญมีความเป็นสากลมากขึ้น เชื่อว่า กรธ.จะทบทวนในสิ่งที่ สนช.เสนอไป เพื่อปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญให้ออกมาดีที่สุด 



+++กรณีมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เกี่ยวกับพระธัมชโยว่าไม่ต้องอาบัติปาราชิก เหตุคดีถือครองที่ดินยุติในศาลชั้นต้นแล้ว พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า ประเด็นการอาบัติปาราชิกหรือไม่ของพระธัมชโย เป็นหน้าที่ของหน่วยสงฆ์ที่รับผิดชอบโดยตรง ดีเอสไอมีหน้าที่สอบสวนคดีอาญา ซึ่งครั้งนี้ดีเอสไอทำหน้าที่เป็นตัวกลางสอบถามไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อหาคำตอบให้ผู้ร้อง ส่วนผลการพิจารณาทางสงฆ์จะเป็นอย่างไร หน่วยงานนั้นๆก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อผลการพิจารณาของตัวเอง เชื่อว่า สังคมจะตัดสินเองได้ อย่างไรก็ตาม ต้องรอพิจารณารายละเอียดหนังสือชี้แจงจากมส.ก่อนว่าได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างไร ซึ่งอาจมีการให้ข้อสังเกตในจุดที่เห็นสมควร ส่วนกรณีที่จะมีการฟ้องร้องเอาผิดกับมส. ตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น หากมีการร้องมาที่ดีเอสไอ ดีเอสไอก็ต้องส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่มีอำนาจไต่สวนคือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ไต่สวน เพราะเป็นความผิดของเจ้าพนักงานไม่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ



+++การดำเนินคดีกับบุคลที่ไม่มารายงานตัวและขัดคำสั่งคสช. ในการเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ จ. ประจวบคีรีขันธ์ พนักงานสอบสวน สน.สถานีรถไฟธนบุรี ได้นำสำนวนในคดีมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 3/2558 มาส่งต่ออัยการศาลทหาร ออกหมายจับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ กับพวกอีก4 คนที่ไม่มารายงานตัว ประกอบด้วย น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นายกรกช แสงเย็นพันธ์ นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธุ์ ส่วนนายธเนตร อนันตวงษ์ ได้หลบหนีคดี โดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับเลขที่ 10-14/2559 กับบุคคลที่ยังไม่มารายงานตัว โดยศาลทหารได้อนุมัติหมายจับดังกล่าวเพื่อประกอบสำนวนคดี ส่งให้อัยการในการดำเนินคดีต่อไป



+++การดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นจำเลย มีรายงานจากกระทรวงการคลังว่า คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดที่มีอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นประธาน กำลังเร่งสรุปเรียกค่าเสียหายคดีดังกล่าว เดิมคาดว่าจะได้ข้อสรุปกลางเดือนนี้ แต่เนื่องจากยังต้องพิจารณาเอกสารหลักฐานให้รอบคอบ ดังนั้น ผลสรุปอาจแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม คดีนี้ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2558 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ชี้มูลนายบุญทรง และพวกรวม 21 ราย ว่าทุจริตในการระบายข้าวจีทูจี เป็นเอกชน 15 ราย เช่น บริษัท สยามอินดิก้า น.ส. ธันยพร จันทร์สกุลพร กรรมการบริษัท สิราลัย และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง เป็นต้น



+++ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ส่งความเห็นเพิ่มเติมไปให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้สั่งฟ้องเอกชน 15 ราย ที่เกี่ยวข้อง 4 สัญญา วงเงิน 6.2 ล้านตัน โดยอัยการจะส่งฟ้องภายในเดือน ก.พ.นี้ ก่อนที่อายุความจะสิ้นสุด กระทรวงพาณิชย์ ยังฟ้องคดีทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายจากเอกชน พ่วงกับการฟ้องคดีอาญาด้วย     



+++ส่วนคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ละเลยไม่ยับยั้งความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวจะสามารถสรุปได้หลังจากเดือนเมษายนนี้  โดยข้อมูลการพิจารณาได้ถูกส่งมาถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว กำลังพิจารณาระดับนโยบายเพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี จากนั้นจะส่งกลับให้ คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดอีกครั้ง



 

ข่าวทั้งหมด

X