หลังรัฐบาลปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าว ถึงกรณีที่กระทรวงการคลังขึ้นภาษีบุหรี่ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่10 ก.พ.ว่า บุหรี่ปรับขึ้นราคาซองละ 5-10 บาท แต่ประชาชนยังไม่เลิกสูบ เพราะถือเป็นว่าสุขของคนจน ขณะที่สุราก็เช่นกัน ซึ่งถ้าจะเลิกก็ต้องเลิกด้วยตนเอง กฎหมายคงทำอะไรไม่ได้ แต่ส่วนตัวเห็นด้วยในการขึ้นราคาเพื่อให้ประชาชนลดการสูบบุหรี่ แต่คงไม่สามารถห้ามได้ เพราะจะกระทบการค้ากับต่างประเทศ ขอประชาชนอย่าโง่อย่าเสพอะไรที่ไม่บริสุทธิ์ ก่อนสูบขอดูด้วยว่ายัดอะไรสกปรกโสโครกมา ติดไปแล้วตายทุกคน เหล้าเมาหัวทิ่ม ไม่มีเงินจ่ายยังเป็นหนี้อีก
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า สาเหตุที่ปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่จาก 87% เป็น 90% หรือ 1.10 บาทต่อกรัม เนื่องจากรัฐบาลต้องการลดการบริโภคของประชาชนลง ส่วนผลต่อรายได้นั้นคาดว่าจะทำให้รัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขึ้นภาษีดังกล่าวประมาณ 12,000-15,000 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่ปรับขึ้นแบบทันที อธิบดีกรมสรรพสามิตชี้แจงว่า เนื่องจากคณะรัฐมนตรีและกระทรวงการคลัง เกรงว่า หากมีการประกาศให้ทราบล่วงหน้า อาจทำให้มีการกักตุนบุหรี่ของผู้ค้าต่างๆ ได้ ส่งผลทำให้ราคาขายปลีกของบุหรี่ทั้งในประเทศและต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยซองละ 5-10 บาท การปรับครั้งนี้มีผลให้ราคาขายปลีกปรับ ขึ้นอีก 10 บาทต่อซอง หรือราคาจะอยู่ที่ซองละ 70 บาท
แฟ้มภาพ