*ก.พ.เตรียมประชุมทุกหน่วยงานปฎิรูปทุนรัฐบาลทั้งระบบ*

มาตรการแก้ปัญหานักเรียนทุนรัฐบาลทำผิดสัญญาชดใช้ทุนหรือป้องกันการหนีทุน หลังจากเกิดกรณีที่ทันตแพทย์หญิงดลฤดี จำลองราษฏร์ อดีตอาจารย์ภาควิชาทันต

กรรมสำหรับเด็ก คณะทันตแพทย์ศาตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) ได้รับทุนจากรัฐบาลไทยในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท-เอก ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ของสหรัฐฯ แต่ไม่กลับมาชดใช้ทุน ซึ่งทำให้ผู้ค้ำประกันต้องชดใช้แทน และกลายเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ

ม.ล.พัชรภากร เทวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กล่าวว่า ทุนรัฐบาล ไม่ใช่มีแค่ทุนของ ก.พ.อย่างเดียว แต่ทุนรัฐบาลมีหลายหน่วยงานที่ให้ ซึ่งทุนของ ก.พ.จะให้ปีละ 500ทุน ซึ่งจะเป็นบุคลากรทางราชการทั่วไปร้อยละ 60 และเป็นนักเรียนนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี ร้อยละ40  ซึ่งข้อผูกพันการรับทุนหากผิดสัญญา มีทั้งเรื่อง จะต้องเสียดอกเบี้ย 2เท่าของเงินทุนและอื่นๆ

แต่ในส่วนของทุน ก.พ. ตั้งแต่ก่อนปี 2539 สัญญาการป้องกันนักเรียนหนีทุนเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา เช่น ก่อนปี 2539 สัญญาระบุให้ผู้ค้ำภายนอกต้องเป็นผู้ใช้ทุน ซึ่งขณะนั้น กพ. พบว่ามีนักเรียนหนีทุน 14คน พอช่วงปี 2539-2551 ที่เปลี่ยนมาว่าผู้ใช้ทุนต้องเป็นบิดา มารดา หรือบุคคลในครอบครัว ทำให้มีจำนวนผู้ผิดสัญญาลดลงเหลือ 8คน และเมื่อปี2551 ที่มีการปรับเปลี่ยนสัญญาว่าให้ผู้เรียนสามารถเลือกหน่วยงานรัฐที่จะเข้ารับราชการได้ ก็มีนักเรียนหนีทุนเพียง 1รายเท่านั้น ซึ่งการติดตามนักเรียนกลุ่มนี้ ก.พ.ก็มีมาตรการเบื้องต้นตั้งแต่ติดตามตัว แต่ถ้าติดต่อไม่ได้ก็จะมีการฟ้องศาลปกครอง และถ้าในระยะเวลา 10ปี ถ้าไม่สามารถติดตามตัวได้จึงจะถึงขั้นฟ้องศาลล้มละลาย

ทั้งนี้ เรื่องการแก้ปัญหาการใช้ทุนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึง คณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งการให้ ก.พ. พูดคุยถึงการปฏิรูป หรือปรับปรุงประสิทธิภาพของทุนรัฐบาล ให้ดียิ่งขึ้น  เบื้องต้น อาจจะพิจารณาว่า ระบบการจัดสรรกองทุนรัฐบาล จะทำให้ไม่มีการซ้ำซ้อนมากเกินไป และควรบูรณาการการทำงานให้มีประสิทธิภาพ  รวมถึงการสรรหาบุคคลเข้ามาจะพิจารณาว่าเป็นคนเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นบุคคลที่มีจิตสาธารณะ เพื่อให้เมื่อนักศึกษาที่กลับมารับราชการแล้วจะได้ทำงานให้กับสังคมอย่างเต็มที่

ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ก.พ.จะมีการปรับปรุงแก้ไขสัญญา รวมถึงจะมีการจัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยงานเจ้าของทุนต่างๆ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม(สศช.)  สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชนติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) รวมถึงสื่อมวลชน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฎิรูปทุนรัฐบาลทั้งระบบ

รองเลขาธิการ ก.พ. มองว่า การดูแลเรื่องระบบทุนทั้งระบบ ควรมีระบบข้อมูลในการรวบรวมข้อมูลในที่เดียว หรือเป็นศูนย์กลางหรือ เซ็นเตอร์ เพื่อจะได้ทราบถึงภาพรวมการบริหารจัดการทุนทั้งระบบ

ขณะที่การดำเนินการกับทางทันตแพทย์หญิงดลฤดี ผู้ที่หนีทุนรายนี้ รองเลขาธิการ ก.พ.เสนอว่า มหาวิทยาลัยมหิดล ต้นสังกัด ที่เป็นผู้ฟ้อง ควรประสานงานไปที่กระทรวงการต่างประเทศ และให้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา เพื่อประสานไปยังทันตแพทย์หญิง รายนี้ หรือหน่วยงานต้นสังกัด

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนักเรียนทุนรัฐบาลและช้าราชการที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ ขณะนี้มีจำนวน 3,226คน ซึ่งส่วนใหญ่จะศึกษาระดับปริญญาเอกมากสุด ถึง 1,443คน ปริญญาตรี 1,150 คน และปริญญาโท 585 คน ส่วนใหญ่จะศึกษาอยู่ในทวีปยุโรป รองลงมาทวีปอเมริกา และออสเตรเลีย และแอฟริกา ตามลำดับ

ผู้สื่อข่าว:วิรวินท์ ศรีโหมด