เมืองไทยฯ(2):กกร.สนับสนุนไทยร่วมทีพีพี/ตรวจดีเอ็นเอหาสถานที่ฆ่าหั่นศพนักธุรกิจสเปน/โอนผู้ประกันตนไปกอช.มากกว่าหมื่นคน*

ในวันนี้ติดตามการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ทวงถามความคืบหน้าในการปฏิบัติตาม พระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี 2542 โดยให้ธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต้องอาบัติปาราชิก

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย มีมติสนับสนุนให้รัฐบาลเข้าร่วมภาคีความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) โดยเร็ว ซึ่งนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ในฐานะประธานการประชุมกกร. กล่าวว่า สมาชิกมีความเห็นว่าการเข้าร่วมทีพีพี จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะในกลุ่มสมาชิกทีพีพีทั้ง 12 ประเทศนั้นเป็นคู่ค้าหลักของไทย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ภาครัฐและเอกชนจะต้องหาแนวทางช่วยเหลือ เพื่อให้อุตสาหกรรมเหล่านี้สามารถดำรงธุรกิจอยู่ได้ มีความเข้มแข็งที่จะต่อสู้กับต่างชาติ ซึ่งได้แก่กลุ่ม กลุ่มปศุสัตว์ ยา เครื่องสำอาง ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์ชัดเจนคือ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม รถยนต์ และสินค้าเกษตรส่วนใหญ่

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการศึกษาของ กกร. ที่คาดว่าหากไทยเข้าร่วมข้อตกลงทีพีพี จะทำให้จีดีพีของไทยขยายตัวประมาณร้อยละ 0.77 และหากประเทศฟิลิปปินส์ เข้าร่วมทีพีพี ก็จะยิ่งทำให้จีดีพีไทยขยายตัวร้อยละ 1.06 เนื่องจากมีการเชื่อมโยงค้าขายเพิ่มขึ้น

ส่วนความคืบหน้าโครงการประชารัฐ วันนี้ หอการค้าแห่งประเทศไทยจะประชุมร่วมกับรัฐบาลเพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกร

ส่วนความคืบหน้าของโครงการประกันภัยนาข้าว สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นัดเอกชนหาทางออกของโครงการโดยตั้งเป้าหมาย 5-10 ล้านไร่ เสียหายจ่ายทันทีไร่ละ 1,500 บาท โดยพบว่าหลังจากปี 2558 มียอดขายมากกว่า 1 ล้าน 5 แสนไร่เพื่อให้สามารถเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

มาที่ข่าวอาชญากรรม คดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวสเปน ซึ่งพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผบช.น. เปิดเผยว่า นายอาร์เธอร์ หรืออาร์ตูร์ ปรินเซป เชกรารา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีฆ่าหั่นศพ นายเดวิด เบอร์เน็ต นักธุรกิจชาวสเปนขอใช้ทนายความของตนเองที่สถานทูตสเปนเป็นผู้จัดหา

พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง กล่าวว่า  ภายใน 2-3 วันนี้ จะทราบผลการตรวจสอบดีเอ็นเอห้องพักของนายอาร์ตูร์ ว่าใช้ห้องพักของตัวเองเป็นที่หั่นศพหรือไม่

เมื่อวานนี้ยังมีการตรวจค้นโรงงานผลิตพาสปอร์ตปลอม ที่ฉะเชิงเทรา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวอิหร่านในฐานะตัวการพร้อมลูกน้องเป็นชาวปากีสถานอีก 5 คน ซึ่งพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. (ฝ่ายความมั่นคง) เปิดเผยว่า นายฮามิด เรซา จาฟารี อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาชาวอิหร่าน มีฉายาดอกเตอร์ เป็นบุคคลที่หลายประเทศต้องการตัว โดยเป็นการจับกุมตามนโยบายของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่เร่งกวาดล้างมาเฟียต่างชาติ ขบวนการอาชญากรต่างชาติ และชาวต่างชาติที่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งในการตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ที่ได้แก่อุปกรณ์การปลอมแปลงพาสปอร์ตและ พาสปอร์ตปลอมที่เตรียมส่งขาย จำนวน 173 เล่ม มีเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ, ฝรั่งเศส, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย เข้าร่วมตรวจสอบ

จากกรณี ร.ต.อ.ทวี หมื่นรักษ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตัวตายที่ห้องพักของแฟลตตำรวจหลัง สน.ทุ่งสองห้อง โดยภรรยาผู้ตายและญาติระบุว่าสาเหตุเกิดจากการผู้บังคับบัญชากดดันในการทำสำนวนคดียึดรถจำนำ 204 คัน ที่นำมาจอดในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าไอที สแควร์ ย่านหลักสี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม และเมื่อวานนี้ น.ส.รุ่งณภัทร์ หมื่นรักษ์ ภรรยาของ ร.ต.อ.ทวี พร้อมด้วยกลุ่มประชาชนนกว่า 100 คนไปเข้าพบนายสิระ เจนจาคะ ประธาน กต.ตร.สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อขอความเป็นธรรม ทั้งเรียกร้องให้ขับไล่ พ.ต.อ. เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ออกจากพื้นที่ และลาออกจากตำแหน่ง จากนั้นนายสิระ กล่าวว่า หากใน 7 วันข้างหน้า พ.ต.อ.เติมเผ่า ยังดำรงตำแหน่ง ผกก.อยู่ก็จะมีการเคลื่อนไหวอีก และจะไปเข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้ขับไล่ พ.ต.อ.เติมเผ่า และต้องการให้รับลูกชายของ ร.ต.อ.ทวี เข้ารับราชการเป็นตำรวจด้วย

ด้าน พ.ต.อ.เติมเผ่า กล่าวว่า เรื่องนี้กรรมการตำรวจตรวจสอบแล้ว และมองว่าเกมการเมือง

ส่วนการร้องเรียนผู้ประกอบการและผู้ขับขี่รถแท็กซี่ พล.ต.อ. วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เนื่องจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก สตช.จึงจะบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลักที่มีประชาชนร้องเรียนมากที่สุด คือ ปฏิเสธผู้โดยสาร เรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคา (เหมาจ่ายค่าโดยสาร) ไม่กดมิเตอร์ แต่งกายไม่ถูกต้อง พูดจาไม่สุภาพ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์สาธารณะ ทอดทิ้งผู้โดยสารระหว่างทาง ใช้รถแท็กซี่ที่มีอายุเกินกฎหมายกำหนด ใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียน กับ ความผิดอื่นๆ ด้านอาญา เช่น ลักทรัพย์ อนาจาร ทำร้ายร่างกาย ผู้ขับขี่เป็นต่างด้าว หากพบแท็กซี่กระทำผิดกฎหมายข้างต้น จะต้องควบคุมและบังคับใช้กฎหมายทันที

นายโกวิท สัจจวิเศษ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) ลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 กรณีบำนาญชราภาพ แสดงความจำนงโอนไปเป็นสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.)และโอนเงินของผู้ประกันตนจากกองทุนประกันสังคมไปเป็นเงินสะสมในบัญชีรายบุคคลกับ กอช. โดยมีผู้ประกันตนแสดงความจำนงที่จะโอนไปยัง กอช.มากกว่า 10,000 คน วงเงินกว่า 40 ล้านบาท ยังเหลือผู้ประกันตนที่ยังไม่แสดงความจำนงอีก 500,000 คน และสปส.จ่ายเงินให้กับผู้ประกันตนไปแล้วมากกว่า 300,000 คนหรือ 7-8 ร้อยล้านบาท เนื่องจากผู้ประกันตนส่วนใหญ่ต้องการรับเงินสด และไปอยู่กับ กอช.ภายหลังเนื่องจาก กอช. เปิดให้ผู้ประกันตนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปสามารถที่จะสมัครเป็นสมาชิก กอช. ภายในวันที่ 25 กันยายนนี้

 *-*