*มีชัย ไม่ปล่อยคนบิดเบือนร่างรธน./ปภ.จัดชุดเคลื่อนที่เร็วดูคลื่นลมแรง/DSI จะลงพื้นที่แก้ปัญหาสระแก้วโมเดล*

+++อิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากคลื่นซัดฝั่ง รวม 5 จังหวัด 14 อำเภอ จ.นราธิวาส 1 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองนราธิวาส  จ.สงขลา 2 อำเภอ คือ อ.ระโนด และอ.สิงหนคร จ.นครศรีธรรมราช 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ปากพนัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.ท่าศาลา และอ.สิชล  จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์  จ.ชุมพร 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ปะทิว อ.เมืองชุมพร อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน และ อ.ละแม ทำให้บ้านเรือนของประชาชนบริเวณริมฝั่งทะเล สิ่งปลูกสร้าง และถนนในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเล ได้รับความเสียหาย

+++ปภ.ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง และอพยพประชาชนที่อยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลไปยังที่ปลอดภัย พร้อมแจกถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้น  นายฉัตรชัย กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังมีกำลังแรง ทำให้บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ปภ.จึงประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์คลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย พร้อมปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ชาวประมงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและประกอบกิจกรรมทางทะเล ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันพรุ่งนี้

+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีมีเพจ ในโซเชียลมีเดีย สร้างข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญว่า เป็นการกระทำของพรรคการเมืองบางพรรค จะนำเอาเรื่องนี้เข้าหารือกับที่ประชุม กรธ.ว่าต้องให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มที่พยายามบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิด แต่คงจะไม่ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น และไม่ถึงขั้นต้องใช้กฎหมายใดมาควบคุม ระหว่างนี้ก็ยังรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ส่วนการแสดงความคิดเห็นของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในวันนี้  มีความเห็นหลากหลาย บางคนก็เข้าใจเจตนารมณ์ของกรธ. และยังมีบางคนที่เข้าใจผิด

+++กรณีที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ (น้ำหอม) ของแม่ค้าชาวกัมพูชา  บริเวณล็อก C ตลาดโรงเกลือ ทำให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาไม่พอใจ ใช้ก้อนหินก้อนอิฐข้างปาใส่จนเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 8 นาย ก่อนทำลายรถตู้จนได้รับความเสียหาย ก่อนที่ตำรวจจะจับกุมชาวกัมพูชา ได้ 3 รายคือ 1.นายสมโอน กง อายุ 22 ปี 2. นายสัยหา ยิม อายุ 23 ปี และ3.นายจอมเริน เจรือน อายุ 37 ปี จากนั้นได้นำตัวส่งฝากขังที่ศาลแขวงจังหวัดสระแก้ว ด้านนายบุญ สกวิบอล กงสุลใหญ่กัมพูชาประจำประเทศไทย พยายามช่วยเหลือผู้ต้องหาชาวกัมพูชาทั้ง 3 ราย  โดยให้เจ้าหน้าที่ประจำกงสุลฯ พร้อมทนายคนไทยดำเนินการขอประกันตัว กระทั่งล่าสุดศาลจังหวัดสระแก้ว อนุญาตให้ประกันตัวได้แล้ว 1 รายคือ นายจอมเริน ในวงเงิน 150,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 รายยังไม่ได้ประกันตัว

+++วันพรุ่งนี้ พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ร่วมประชุมคณะทำงานประสานงานเพื่อบูรณาการการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ณ  ศาลากลาง จังหวัดสระแก้ว เพื่อบูรณาการการแก้ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว

+++กรณีที่มีการเผยแพร่ภาพบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา วิทยาเขตระยอง สวมชุดครุยรับปริญญา พร้อมสวมมงกุฎบนศีรษะ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ณ สวนอัมพร พระราชวังดุสิต จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความเหมาะสม ซึ่งอาจารย์จากมหาวิทยาลัยดังกล่าวยังได้ชี้แจงผ่านสื่อ ว่า เป็นการสวมในวันซ้อมใหญ่เท่านั้น และมงกุฏก็เป็นตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย นายสรนิต ศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ( กกอ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามกฎกระทรวง กําหนดลักษณะ ชนิด ประเภท และส่วนประกอบของครุยวิทยฐานะ และเข็ม วิทยฐานะของสถาบันอุดมศึกษา ที่มีการกำหนดไว้ว่า วันรับปริญญาต้องไม่มีการสวมใส่สิ่งของบนศีรษะ ยกเว้นหมวกรับปริญญา ทั้งวันซ้อมรับปริญญาและวันพระราชทานปริญญาบัตร ส่วนในกรณีดังกล่าว ถือว่าไม่เหมาะสม ถึงแม้จะเป็นพิธีซ้อมรับปริญญาบัตรก็ตาม นายสรนิต กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน แต่ก็ต้องยึดตามเกณฑ์กำหนดของกฎกระทรวงด้วยเครื่องแบบการแต่งกาย ที่ทุกมหาวิทยาลัยต้องปฎิบัติตาม อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะดำเนินการเรื่องใด ควรนึกถึงสังคมโซเชี่ยลที่มีความรวดเร็วเรื่องรับข้อมูลด้วย สกอ. ทำหนังสือตักเตือนไปยังมหาวิทยาลัยแล้ว และจะกำชับให้มากขึ้น แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็แสดงถึงความเหมาะสมที่บางครั้งสังคมจะเป็นตัวกำหนดการกระทำ

+++นายเสข วรรณเมธี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศไทยขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกรณีที่เกาหลี ปล่อยจรวดพิสัยไกลและประกาศว่าเป็นดาวเทียมสังเกตการณ์โลก ซึ่งถือเป็นการละเมิดอย่างชัดเจนต่อข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนี้เป็นการแสดงออกถึงการไม่นำพาต่อข้อกังวลของประชาคมโลกในโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลี ที่เป็นภัยอย่างยิ่งต่อสันติภาพและความปลอดภัยของนานาประเทศ  ประเทศไทยขอย้ำท่าทีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 ที่เรียกร้องให้เกาหลีเหนือ ยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และเรียกร้องให้รื้อฟื้นการเจรจา 6 ฝ่ายโดยเร็ว ประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างสันติภาพและความปลอดภัยของคาบสมุทรเกาหลี และพร้อมสนับสนุนและยังคงปฏิบัติตามข้อมติที่เกี่ยวข้องของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต่อไปอย่างเต็มที่

+++ทางการไต้หวัน เร่งสอบสวนเหตุอาคารพักอาศัย 17 ชั้นพังถล่มช่วงเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ หลังพบมีการนำปี๊บเปล่าที่เคยบรรจุน้ำมันพืชมาใช้แทนวัสดุก่อสร้าง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้โครงสร้างอาคารไม่แข็งแรงจนพังถล่มลงมา  จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 35 ศพ บาดเจ็บกว่า 500 คน ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้พักอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ จากการตรวจสอบล่าสุด เจ้าหน้าที่พบว่ามีการนำปี๊บเปล่าที่เคยใช้บรรจุน้ำมันทำอาหาร มาอัดเป็นโครงสร้างอาคารแทนปูนซีเมนต์หลายจุด ทั้งส่วนกำแพงและเสา เชื่อว่าอาจเป็นสาเหตุให้โครงสร้างอาคารไม่แข็งแรงและเกิดการพังถล่มลงมา และยังมีผู้สูญหายอีกราว 121 คน ท่ามกลางความพยายามของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทหาร ตำรวจและอาสาสมัครหลายร้อยคน พร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น เครื่องมือหนักและเครน ระดมกำลังกันทำงานแข่งกับเวลาเพื่อเร่งค้นหาผู้เคราะห์ร้ายที่อาจจะยังติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง แม้ความหวังจะเริ่มริบหรี่ลงหลังเหตุการณ์ผ่านไปนานถึง 2 วันแล้ว

+++ด้าน นายหม่า อิง-จิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวัน ประกาศยกเลิกการเฉลิมฉลองกับครอบครัวของเขาในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์และภารกิจการกู้ภัยของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ที่สำนักงานใหญ่ของศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ  

+++หุ้นไทย ปิดตลาดบวก 1.28 จุด ที่ระดับ 1,307.57 จุด มูลค่าซื้อขาย 27,024.27 ล้านบาท หลายตลาดในภูมิภาคเอเชีย ปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน ทำให้ตลาดหุ้นไทยประคองตัวได้ ขณะที่ มองปัจจัยหนุนทิศทางเงินไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีนี้  

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 184.71 จุด 17,004.30 จุด ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 105.08 จุด ปิดที่ 19,288.17 จุด