เมืองไทยฯ(1):ตรุษจีนเยาวราช/เหนือ-อีสานหนาว,ใต้คลื่นลมแรง/หลายกระทรวงส่งรายงานรธน.*

08 กุมภาพันธ์ 2559, 07:16น.


ในโอกาสวันตรุษจีน 8 กุมภาพันธ์นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีเปิดงานตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2559 ภายใต้ชื่อ "ปีวอกทอง มงคลยิ่ง ลาภพูนทวี" บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช ในเวลา 17.00 น. ซึ่งสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาคมเขตสัมพันธวงศ์ สภาวัฒนธรรมเขตสัมพันธวงศ์ บริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ สถานศึกษา และประชาชนในพื้นที่ร่วมกันจัดงานระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 12.00-24.00 น. ตั้งแต่บริเวณซุ้มเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ไปจนตลอดถนนเยาวราช เพื่อเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่จีนและฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยว



ส่วนสภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง "อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย" ซึ่งบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว และจะปกคลุมอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้มีฝนตกหนักบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้



ที่สงขลา คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยบริเวณชายฝั่งสงขลาที่มีกำลังแรง ซัดเข้าท่วมหมู่บ้านชาวประมง หมู่ที่ 1 บ้านท่าเข็น ต.คลองแดน อ.ระโนด จ.สงขลา ได้รับความเสียหาย



ที่นราธิวาสมีฝนตกต่อเนื่อง และทะเลมีคลื่นลมแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร เช่นเดียวกับที่ชุมพร ที่ อ.หลังสวน และ อ.ทุ่งตะโก มีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน สถานที่พัก รีสอร์ต และร้านอาหาร ได้รับความเสียหาย



กองเรือภาคที่ 1 พยายามให้ความช่วยเหลือเรือบรรทุกสินค้าสันทัดสมุทร 1 ที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยหาดบ้านคอสน หมู่ 8 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ยังมีเรือนำเที่ยวชื่อ ส.สกุลวารี ถูกคลื่นลมในทะเลซัดไม่สามารถกลับเข้าฝั่งได้ โดยอยู่ในเขตเกาะแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี  



ที่ตราด มีเรือประมงพื้นบ้านและเรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ เข้ามาจอดเทียบท่าเรือ โดยที่ท่าเรือ ส.กฤตวรรณ ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ ที่เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าไปยังกัมพูชาและเวียดนาม ต้องหยุดทำการขนส่งสินค้าไปบางส่วนเนื่องจากคลื่นลมแรง



ส่วนที่ จ.กระบี่เกิดเหตุเรือหางยาวโดยสารถูกคลื่นลมแรงพัดล่มกลางทะเล มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 ราย หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลกระบี่ โดยผู้เสียชีวิต 1 ราย ชื่อนาง ซู จิ เซ็น อายุ 64 ปีเป็นชาวจีน



ส่วนภาคกลางที่เป็นภัยแล้ง นายชูชาติ ศุภวรรธนางกูร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานปทุมธานี เปิดเผยว่า กรมชลประธานปิดประตูระบายน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปจนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากสัปดาห์นี้จะมีปริมาณน้ำทะเลหนุนสูง และเพื่อป้องกันน้ำทะเลเข้ามาทำให้น้ำกร่อย เนื่องจากน้ำต้นทุนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาและท่าจีน เริ่มรุนแรง ส่วนที่สถานีสูบน้ำดิบสำแล อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานี สูบน้ำดิบสำหรับทำน้ำประปา พบว่ายังมีน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาที่เพียงพออยู่ โดยที่ปทุมธานีปิดประตูระบายให้สนิททุกบานประตู รวมทั้งสิ้น 62 แห่ง จึงขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด และงดการสูบน้ำในคลองในช่วงอาทิตย์นี้ ซึ่งหากครบกำหนดช่วงน้ำทะเลหนุนสูงแล้ว กรมชลประทานจะประเมินสถานการณ์เพื่อเปิดประตูระบายน้ำอีกครั้ง



ส่วนการพิจารณาเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เตรียมส่งความเห็นให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน พิจารณาในสัปดาห์นี้



นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีหลายกระทรวงที่ส่งรายงานการพิจารณากลับมาแล้ว ซึ่งเป็นการตั้งข้อสังเกตหรือสงสัยเนื้อหา โดยกำหนดว่าทุกกระทรวงจะส่งความเห็นภายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อเสนอไปยังคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการเสนอเพิ่มหมวดการปฏิรูปในร่างรัฐธรรมนูญ แม้ร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกจะมีมาตราที่เกี่ยวกับการปฏิรูปอยู่แล้ว ทั้งการปฏิรูปการศึกษา ตำรวจ และอื่นๆ แต่ต้องการให้เขียนขึ้นเป็นหนึ่งหมวด และไม่ควรซุกไว้ในบทเฉพาะกาลเพราะจะเหมือนทำเพียงระยะเวลาสั้นๆ ทั้งที่การปฏิรูปต้องเกิดขึ้นในระยะยาว



ในวันนี้และพรุ่งนี้ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะมีการประชุมสปท. เพื่ออภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ



พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า มาตรการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะแนวทางการจำกัดอายุเครื่องยนต์รถประจำทางที่พบผู้ให้บริการได้นำรถที่มีอายุมากมาวิ่งให้บริการ และมักจะเกิดปัญหารถเสียอยู่เป็นประจำ จึงหารือกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ขอลดอายุเครื่องยนต์รถประจำทางจากปกติต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไม่ให้นำมาวิ่งบนทางและกำหนดให้อายุเครื่องยนต์เหลือเพียง 20 ปี 



-*

ข่าวทั้งหมด

X