การติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ นายเดวิด เบอร์นาร์ด วัย 43 ปี สัญชาติสเปน ที่ปรึกษาบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนนำชิ้นส่วนศพไปโยนทิ้งกระจัดกระจายในแม่น้ำเจ้าพระยา พลตำรวจเอกปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ.10 และทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างติดตามตัวชายต้องสงสัยชื่อ นายอาเทอร์ เซการ์รา ปริ๊นเซป อายุ 37 ปี ชาวสเปน ซึ่งรู้จักกับผู้เสียชีวิตมาก่อน แต่ไม่ใช่เชิงชู้สาว ตำรวจพบว่าเส้นทางการเงินจากบัญชีนายเดวิด ที่ธนาคารสิงคโปร์ ถูกโอนไปเข้าบัญชีของนายอาเทอร์ 2 ครั้ง คิดเป็นเงินไทย กว่า 37 ล้านบาท และมีการกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มธนาคารต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น ล่าสุดเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 16.00 -18.00 น. คนร้ายกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และธนาคารกสิกรไทย สาขาสุวินทวงศ์
ในส่วนของนายอาเธอร์ แม้จะไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนใด แต่จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเข้ามาในไทย 13 ครั้ง ครั้งล่าสุดเข้ามาช่วงปลายปี 2558 และวีซ่าหมดอายุเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ดังนั้นนายอาเทอร์จึงมีความผิดฐานอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด จึงขอให้ประชาชนที่พบเบาะแส สามารถแจ้งให้ตำรวจเข้าจับกุมได้ทันที เบาะเเสล่าสุดพบว่านายอาเทอร์กับหญิงสาวรายหนึ่ง หลบหนีด้วยรถกระบะอีซูซุ สีดำ ส่วนหลบหนีไปเส้นทางใด ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เชื่อว่ายังอยู่ในไทย
ส่วนประเด็นการสืบสวนมุ่งเป้าไปที่การลักพาตัวเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจมืด โดยเหตุที่คนร้ายได้เงินแล้ว แต่ยังฆ่าหั่นศพผู้ตายอย่างโหดเหี้ยม เชื่อว่าน่าจะเกิดจากการที่คนร้ายต้องการเงินเพิ่ม หรือได้เงินไม่ครบ เพราะถูกธนาคารไทยและสิงคโปร์เห็นความผิดปกติ ระงับธุรกรรมไปกว่า 3 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 20 ล้านบาท
ตำรวจ ได้ตั้งชุดสืบสวนแกะรอยตามหาสถานที่ 5 จุดสำคัญ คือ จุดลักพาตัว จุดกักขัง จุดฆ่า จุดชำแหละ และ จุดทิ้งศพ ส่วนกลุ่มคนร้ายเชื่อว่ามีมากกว่า 2 คน แต่ไม่ถึง 10 คน เพราะต้องแบ่งงานกันทำในหลายขั้นตอน ตั้งแต่การนำตัวนายเดวิดไป การทรมาน ขู่เอาทรัพย์ การกดเงิน การฆ่า ชำแหละ และทิ้งศพ และส่วนใหญ่น่าจะเป็นชาวสเปน และมีคนไทยเกี่ยวข้องในบางขั้นตอน เช่น การขับรถ การถอนเงิน และการเดินเรื่องต่างๆ ส่วนจะมีแก๊งมาเฟีย ผู้มีอิทธิพลชาวอิตาเลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบความเชื่อมโยงก็จะดำเนินคดีทั้งหมด
ส่วนกรณีที่เมื่อคืนนี้ตำรวจได้เชิญตัวหญิงสาวรายหนึ่งมาสอบปากคำ พลตำรวจตรีปัญญา ยืนยันว่าตั้งแต่ตำรวจยืนยันตัวผู้เสียชีวิตได้ ก็มีผู้มาแสดงตัวยืนยันความบริสุทธิ์และแจ้งเบาะแสหลายราย ซึ่งได้เบาะแสที่มีความสำคัญต่อคดีในระดับหนึ่ง ส่วนการตั้งกรอบเวลาว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ภายใน 48 ชั่วโมง เชื่อว่าหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ตำรวจมีจะสามารถออกหมายจับกลุ่มคนร้ายได้ มั่นใจว่าทุกอย่างจะคลี่คลายได้โดยเร็วที่สุด