การแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยผลการประชุมระดับรัฐมนตรีสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ ที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย ว่า รัฐบาลของทั้ง 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จึงได้ตกลงที่จะลดปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติ เป็นจำนวน 615,000 ตัน โดยแบ่งตามปริมาณสัดส่วนการผลิตจาก 3 ปีล่าสุด คือ ประเทศไทย 324,005 ตัน อินโดนีเซีย 238,736 ตัน และมาเลเซีย 52,259 ตัน ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.59 ถึงวันที่ 31 ส.ค. 59 และเพื่อเป็นการลดปริมาณอุปทานยางธรรมชาติในตลาดโลกลงไปอีก ทั้ง 3 ประเทศ ตกลงที่จะใช้มาตรการบริโภคยางพาราในประเทศให้มากขึ้น ทั้งการนำมาใช้เป็นส่วนผสมของถนนยางพารา แผ่นรองรางรถไฟ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เหมาะสมในแต่ละประเทศ
รัฐมนตรีของทั้ง 3 ประเทศ มีความเชื่อมั่นว่า การใช้มาตรการลดปริมาณการส่งออก และเพิ่มการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้นนี้ จะช่วยผลักดันและแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ให้กลับสู่ระดับราคาที่ยุติธรรม เหมาะสม แก่เกษตรกร รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ โดยที่การดำเนินการครั้งนี้ จะมีการติดตามและประเมินผลจากคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นมาอย่างใกล้ชิด
ส่วนมาตรการรับซื้อยางพาราโดยตรงจากเกษตรกร 1 แสนตันของประเทศไทย ขณะนี้ ยังมีเกษตรกรให้ความสนใจไม่มากในช่วงที่เปิดรับซื้อมา 10 วัน มีปริมาณ 750 ตัน จากปัญหามาก เพราะไม่ได้รับเงินสด รมว.เกษตรฯจึงสั่งการให้ กยท.ไปแก้ปัญหาอุสรรคอย่างเร่งด่วน รวมทั้งเพิ่มจุดรับซื้อให้ครบ 834 จุดให้ทั่วถึงเกษตรกรรายย่อยให้มากที่สุด